วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เมื่อทุกคนไม่อยากอยู่ที่เดิมๆ กับ Shuffle Tarot

วันก่อน (ใช้บอกวันเวลาที่จำไม่ได้ ฮา) มีข้อความแนะนำตัวทักมาว่าชื่อ หมอเมท อยากส่งไพ่มาให้ช่วยรีวิว แว่บแรกเลย เอ๊ะ เดี๋ยวนี้หมอมาทำไพ่ทาโรต์กันแล้วเหรอ (ตอนนั้นคิดว่า หมอที่อยู่ รพ.  เพราะมีหมอหรือแพทย์เคยมาซื้อไพ่เหมือนกัน) พอตอนหลังไปดูโปรไฟล์ของ หมอเมท ถึงได้รู้ว่เข้าใจผิดไปเอง วันเวลาช่างน่ากลัวนัก ความคิดพลอยช้าลงไปด้วย .. จากรูปที่เห็นในเฟสของหมอเมท ยังดูอายุไม่มาก แต่สามารถทำไพ่ของตัวเองได้แล้ว ถือว่าน่าชื่นชม ช่วงก่อนหน้านี้ก็มีออกมา 2-3 ชุด โดยคนรุ่นใหม่ ต่อไปน่าจะมีออกมาอีกเรื่อยๆ แน่

ก่อนที่ผมจะส่งที่อยู่ให้ ผมขอดูรูปไพ่ก่อน เพราะถ้าไม่ชอบจะได้ตอบปฎิเสธไป ฮา จริตคนไม่เหมือนกัน ไพ่ชุดเดียวกัน อาจจะมีทั้งคนชอบ และไม่ชอบ หมอเมทส่งเพจของไพ่มาให้ดู ชื่อว่า Shuffle Tarot หลังจากดูรูปไพ่แล้ว น่าสนใจดี ผมจึงตอบตกลงไป .. ผมไม่ได้หยิ่งหรือเล่นตัวนะ  ฮา  เพราะถ้าเทียบกับหมอดูหลายๆท่านที่ดังๆ ผมแค่เด็กน้อยเท่านั้นเอง แค่เรื่องความชอบ

จากนั้นมีสอบถามข้อมูลจากหมอเมทอีกนิดหน่อย ยอมรับว่าไม่รู้จักมาก่อน เข้าไปดูเพจน้องเขา (ขอเรียกว่าน้องแล้วนะ เพราะคงไม่น่าจะแก่กว่าผมแหละ) ถึงได้ทราบว่าน้องเขามีคนนิยมมาก และไพ่ชุดนี้ก็มีหลายคนตามมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2019 ว่าแต่ผมไปอยู่ไหนมาหว่า (ผมเข้าไปดูเพจและไล่ดูย้อนหลังจนถึงวันเริ่มสร้างเพจ) 

ตั้งแต่เริ่มทำไพ่ (ใช้เวลาปีกว่าๆ) น้องเขาได้พยายามปูพื้นฐาน และแนะนำไพ่ ให้คนรู้จักทีละนิด เพราะจะได้เข้าใจแนวคิด พอเวลานำไปใช้งานจะได้ไม่งง เพราะคนที่เคยใช้ไพ่ไรเดอร์เวทมาก่อน น่าจะงง ฮา .. น้องเมทและทีมงานช่วยกันดีมาก ตั้งแต่ออกแบบลายเส้น ที่ไม่ได้เลียนแบบให้เหมือน แต่ใช้รูปแบบของตัวเอง ทำให้ภาพออกมาดูน่ารัก คล้ายตัวการ์ตูน สามารถเก็บรายละเอียดของภาพ และสัญลักษณ์ได้ครบ


ครั้งแรกที่ผมดูภาพของไพ่ Shuffle Tarot ทำให้นึกถึงไพ่ 3 ชุดคือ Before Tarot และ After Tarot หลายคนน่าจะได้ซื้อไว้ เป็นการเล่นกับไพ่ต้นแบบคือ Rider Waite Tarot โดยไพ่ Before Tarot จะแสดงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะมาเป็นเหตุการณ์ใน Rider Waite และไพ่ After Tarot ก็จะแสดงเหตุการณ์ต่อจาก Rider Waite เสมือนเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากกันทั้ง 3 ชุด

ส่วนอีกชุดนึงคือ New Vision Tarot ไพ่ชุดนี้ออกมานานมากแล้ว แต่ยังสามารถหาซื้อได้อยู่ ไพ่ชุดนี้จะแสดงภาพอีกด้านหนึ่งของไพ่ Rider Waite ใครยังไม่เคยเห็นลองไปค้นหาภาพในเวปดูนะครับ

ไม่แน่ใจว่า หมอเมท ได้ไอเดียจากไพ่ชุดเหล่านี้หรือไม่ แต่ก็ถือเป็นความกล้าหาญมาก ฮา ที่สลับที่ตัวละครในไพ่ต่างๆ ย้ายไปอยู่ต่างที่ต่างถิ่น .. ความคิดที่อยากถ่ายทอดออกมาอยู่ในหัวเต็มไปหมด แต่ไม่รู้ว่าจะเขียนออกมาได้แค่ไหน เอาไว้อยากเพิ่มเติมตรงไหน ไว้ผมไปเขียนโพสในเพจเอาแล้วกัน


ว่าแล้วมาเริ่มดูไพ่ Shuffle Tarot กันก่อนดีกว่า ว่ามีอะไร อย่างไรบ้าง .. เท่าที่ไปหาข้อมูลในเพจ Shuffle Tarot ไพ่จะมี 2 แบบคือ มาตรฐาน กล่องฝาเปิดด้านบนปกติ ที่เห็นทั่วไป กับ แบบ Premium จะเป็นกล่องแบบแข็ง

โดยแบบ Premium จะพิเศษตรงที่มีแถมไพ่ Happy Squirrels ให้อีก 1 ชุด (มี 2 ใบ) ไว้ไปว่ากันอีกที และโดยทั้งสองแบบจะแบ่งออกเป็น ชุด A และ ชุด B .. เท่าที่เข้าใจไพ่ชุดแรกที่จะออกมาคือไพ่ Premium มีจำนวน 2020 กล่อง (ตามปีที่เริ่มจำหน่าย) โดยแบ่งออกเป็น ชุด A 1,010 กล่อง และชุด B อีก 1,010 กล่อง ซึ่งไปเปิดจองกันไปก่อนหน้านี้แล้ว พร้อมรับไพ่ช่วงต้นเดือน มิถุนายน นี้ อีกไม่กี่วัน

สำหรับรายละเอียดของไพ่แต่ละชุด (A, B) ว่ามีหน้าไพ่อะไรบ้าง สองชุดนี้ต่างกันอย่างไร เข้าไปดูที่เพจ Shuffle Tarot จะละเอียดกว่า หมอเมทได้ทำอธิบายเป็นวีดีโอไว้หมดแล้ว ที่โพสปักหมุด หรือเข้าลิ้งคนี้
รายละเอียดไพ่ และความแตกต่างของชุด A, B

ส่วนไพ่ที่ได้นำมารีวิวนี้เป็นแบบ Premium เรามาเริ่มที่ชุด A กันก่อนเลย


หน้ากล่องไพ่จะเป็นรูป The Fool นั่งอยู่บนบัลลังค์ของ Emperor โทนสีฟ้าเขียว สีเดียวกับหลังไพ่ ในกล่องมีไพ่ 78 ตามมาตรฐานของไพ่ทาโต์ ที่มีเพิ่มเข้ามาพิเศษคือ ไพ่รูป Pamela Colman Smith, ใบ Certificate ที่ระบุหมายเลขไพ่ พร้อมลายเซ็นผู้สร้าง และมีอีก 2 ใบที่ระบุชื่อทีมงานผู้สร้างหนึ่งใบ และอีกใบบอกว่าเป็นไพ่ชุด A

หลังกล่องมีประโยคว่า "When everything is shuffled, the fun begins" จะสนุกหรือมึนๆ งงๆ ค่อยๆ ดูกันไปครับ :)







คู่มือฉบับเล็กที่แถมมาในกล่อง จะมี 2 ภาษาคือ ไทย และอังกฤษ ทำไว้พร้อมขายต่างประเทศอย่างแน่นอน นี่คงเป็นไพ่ของไทยอีกชุดที่จะ Go Inter นอกจากไพ่ Siam Tarot และ Root of Asia ซึ่งนานมากแล้ว

สำหรับกระดาษไพ่ ที่หลายคนจะกังวล ด้วยคุณภาพการผลิตที่บ้านเรายังสู้ต่างประเทศไม่ค่อยจะได้ แต่สำหรับไพ่ชุดนี้ ทำออกมาได้ดีค่อนข้างไปทางดีมาก ด้วยกระดาษที่หนา 350 แกรม การตัดขอบที่เนียน ไม่มีปุ่มที่ขอบไพ่ ถือว่าหมอเมท ควบคุมการผลิตได้ดีจริงๆ .. ส่วนการคลี่ไพ่ยังฝืดๆ อยู่ ใช้ไปสักพักน่าจะดีขึ้น เพราะไพ่แต่ละใบไม่เหนียวติดกัน ใครรอไม่ไว้ก็ทาแป้งสำหรับใช้เล่นกลไพ่เอาครับ



มาถึงจุดสำคัญกันแล้ว แนวคิดหลักของไพ่ชุดนี้ คือการสลับสับเปลี่ยน ของตัวละคร และธาตุของไพ่ จากของเดิม Rider Waite Smith มาเป็น Shuffle Tarot จะลงตัวแค่ไหน จะงงไหม หรือสนุกมาดูไปพร้อมกันครับ

การสลับตัวละครและสัญลักษณ์ในไพ่ของชุด A และ B จะต่างกัน สำหรับชุด A ในไพ่ Major ได้นำตัวละครจากไพ่ใบหนึ่ง ไปอยู่กับไพ่อีกใบหนึ่ง ถ้าจะให้พูดง่ายๆคือ ย้ายบ้าน อย่าง The Fool ที่ยืนบนหน้าผา ก็จับไปนั่งบนบัลลังค์ของ Emperor ซะ มาดูตัวอย่างกันดีกว่า

ผมนำไพ่มาสี่ใบ ที่ตัวละครสลับที่กันมาให้ดู
ใบแรก ผู้หญิงในไพ่ Empress ที่นั่งบนเก้าอี้สบายๆ มายืนบนหน้าผา แทนเด็กผู้ชายกับหมา ซึ่งตอนนี้ไปนั่งอยู่บนบัลลังค์ของไพ่ Emperor ไม่ต้องกลัวว่าจะตกเหว รู้สึกมั่นคงขึ้น ส่วนพระราชาเปลี่ยนไปนั่งบนหลังม้าในไพ่ The Sun แทน สำหรับเด็กคงไปอยู่ที่ไหนสักใบ และไพ่ Empress ผู้ชายที่ถูกแขวนในไพ่ Hangedman มานอนกลับหัวบนเก้าอี้แทน

คำถามที่เกิดขึ้นมาในหัวคือ ไพ่ The Fool ยังคงเป็นไพ่ The Fool อีกไหม ในเมื่อตัวละคร ไม่ใช่เด็กที่ดูไม่สนใจโลกคนเดิม แต่เป็นราชินีที่อยากจะเป็นอิสระบ้าง หลังจากที่นั่งเส้นยึดมานาน

ไพ่หลักทั้ง 22 ใบ เมื่อตัดไพ่ The Fool ออก ซึ่งเป็นหมายเลข 0 จะเหลือ 21 ใบ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ชุดๆ ละ 7 ใบ ถ้าใครเคยศึกษามา .. 7 ใบแรก ตั้งแต่ Magician ไปจนถึง Chariot จะแทนคนแต่ละแบบ ส่วนที่เหลือ 14 ใบ จะเป็นสภาวะ ออกแนวนามธรรม .. ส่วนการสลับตัวละครในไพ่แต่ละใบ หมอเมทน่าจะมีแนวทางไว้อยู่แล้ว ส่วนเหตุผลคงต้องไปตามในเพจ หรือถามกันเองดูนะครับ

แล้วเราควรจะอ่านความหมายอย่างไร .. นักรบที่มานั่งบนแท่นในไพ่ The High Priestess เราคงจะไม่แปลความสวยงาม มีเสน่ห์ หรือเมียน้อย (ที่เขาชอบทายกัน) หรอกนะ แน่นอนว่าบรรยายกาศของไพ่ The High Priestess ยังคงอยู่ โดยความเห็นส่วนตัว สามารถอ่านได้ 2 แบบ คือ

  1. ลืมไพ่ไรเดอร์เวทไปซะ หรือคนที่ไม่เคยใช้ยิ่งง่ายเลย ให้อ่านความหมายจากไพ่เหมือนอ่านไพ่ออราเคิล
  2. เอาความหมายของไรเดอร์เวทมาใช้เสริม โดยแยกออกเป็นตัวละคร และสิ่งแวดล้อม ตัวละครก็เหมือนคนเราที่นิสัยอย่างไร บุคคลิกอย่างไร ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ไม่เปลี่ยนแปลง หรือสั้นๆ สันดานเปลี่ยนยาก ฮา เพียงแต่ถูกจับไปอยู่บ้านคนอื่น ประเทศอื่น การกระทำหรือการปฎิบัติ อาจจะแตกต่างไปจากเดิมบ้าง แต่นิสัยไม่ได้เปลี่ยนตาม

อย่างเด็กชายจาก The Fool ไปนั่งบัลลังค์ของพระราชา ถ้าเปรียบเทียบกับชีวิตจริง ก็เหมือนแต่งตั้งเด็กคนหนึ่งไปนั่งตำแหน่ง CEO บริษัท คุณคิดว่ายังไง คงไม่ง่ายที่จะควบคุมคน หรือจะมองอย่างอื่นก็ได้นะ ได้อีกหลายมุมมอง เช่นจากเร่ร่อน ได้อยู่เป็นที่เป็นทาง

ผมชอบการทายแบบที่ 2 นะ เพราะผมลืมความหมายไพ่ไรเดอร์เวท ไม่ได้จริงๆ ฮา

หรือจะมีแบบที่ 3 เอาตามความรู้สึกของคุณ ว่าเข้าใจไพ่ในแนวทางไหน ก็ใช้ตามนั้น

แต่ข้อควรระวังเลยก็คือ ถ้ากำหนดจะใช้แบบไหนแล้ว อย่างสลับไปสลับมานะ เพราะจะงง งงทั้งไพ่ งงทั้งคนอ่านไพ่


มาถึงไพ่ชุดรอง และไพ่คน หมอเมทใช้การสลับธาตุหรือสัญลักษณ์ ไม้ ถ้วย ดาบ และเหรียญกัน
ยกตัวอย่างภาพ 2 ไม้รูปซ้ายใบบน เป็นตัวละครและฉากของไพ่ 2 ถ้วยในไรเดอร์เวท หรือมีสลับตัวคนไปอยู่คนละฉาก อย่างไพ่ 2 เหรียญที่คนนั่งถือเหรียญ โดนมัดแขน มาอยู่ในฉาก 2 ดาบเดิม ฮา คงไม่งงกันนะ

ไพ่อัศวินไม้ แม้อัศวินจะถือไม้อยู่ แต่รูปคนกับม้าที่ขี่เป็นท่าทางของไพ่อัศวินดาบของไพ่ไรเดอร์เวท ที่ลุยแบบไม่กลัวใคร .. 2 ถ้วย คงจะแปลว่าคนรัก สัญญา มีความรู้สึกดีๆ ให้กันไม่ได้แล้ว เพราะเป็นไพ่ที่โดดเดี่ยว อีกถ้วยเหมือนโดนวางทิ้ง น่าจะโดนทิ้งไป หรือความรู้สึกตอนนี้เหวี่ยงมาก จากคลื่นทะเล

ชักเริ่มมึนๆ แล้วสิ มาจบชุด A ด้วยการลองหยิบไพ่ดู


แม้แต่ไพ่ยังปวดหัวเหมือนผม ฮา

มาดูไพ่ชุด B กันครับ



ชุดนี้คงไม่ลงรายละเอียดนัก เพราะใช้การสลับตัวละครและสัญลักษณ์ ไม่ต่างจากชุด A แต่วิธีการสลับจะต่างกัน ที่ต่างกันจะมีไพ่หลัก และไพ่บุคคล ส่วนไพ่รอง ไม้ ถ้วย ดาบ และเหรียญ จะเหมือนกัน

ไพ่ชุด B  จะมาให้กล่องสีโทนเหลืองส้ม หน้ากล่องเป็นไพ่ Chariot ที่ต่างไปจากเดิมคือ คนที่อยู่บนรถเป็นคนจากไพ่ Justice เดิม และสัญลักษณ์ของสัตว์ทั้ง 4 มาจากไพ่ The World เดิม

ภาพด้านบนเอาไพ่ชุด A กับชุด B มาเทียบกันให้ดู แม้ฉากจะเหมือนเดิม แต่ตัวละครต่างไปจากเดิม สิ่งที่แปลกตาขึ้นไปอีกคือ ไพ่คน ที่เหล่าอัศวินจะหายไป แต่แทนด้วยตัวละครจากไพ่หลัก ตามรูปด้านล่าง




เด็กจาก The Sun มาเป็นเด็กไม้
Magician มาเป็นอัศวินไม้
ราชินีจาก Empress มาเป็นราชินีไม้
ราชาจาก Emperor มาเป็นราชาไม้

ส่วนแถวล่างดูเอาเองนะ ฮา
ก่อนจบไพ่ชุด B มาเปิดสัมภาษณ์ไพ่เช่นเคย


พระจันทร์มาเลย สำหรับความเห็นส่วนตัวแล้ว ไพ่ชุด B ดูซับซ้อนกว่าชุด A ยิ่งคนที่ติดความหมายจากไรเดอร์เวทมา ช่วงแรกๆ น่าจะสับสนบ้าง แต่เชื่อว่าใช้ไปสักพัก เมื่อกำหนดวิธีการอ่านไพ่ได้ลงตัว ก็สามารถใช้ไพ่ทั้งสองชุดนี้ ได้อย่างสนุกสนาน

การอ่านไพ่ Shuffle Tarot ต้องรู้จักยืดหยุ่น พลิกแพลง แยกไพ่แต่ละใบออกเป็นสภาวะ (สิ่งแวดล้อม ฉาก) และตัวละคร เลือกอ่านว่าจะอ่านส่วนไหนก่อนหลัง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับคำถาม หรือจะอ่านไพ่ Shuffle เหมือนกับการอ่านไพ่ After Tarot ได้ไหม สิ่งที่อยู่ในภาพตอนนี้เป็นเหตุการณ์ที่ดำเนินมาจากไพ่ไรเดอร์เวท ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง .. สำหรับคนที่จะอ่านแบบออราเคิล ไม่น่ามีปัญหามากนัก แต่อาจจะขาดเรื่องราวไปบ้าง

สุดท้ายกับ Happy Squirrels


ไพ่กระรอกสุขสันต์ คงไม่มีใครเขียนได้ละเอียดไปกว่า ดร.เซ่ แล้วล่ะ สามารถไปอ่านได้จากลิ้งค์นี้
http://drzeitarotcard.blogspot.com/2010/09/xxiii-happy-squirrel.html

สำหรับไพ่กระรอก จะแถมให้กับชุด Premium 1 ซอง ซึ่งจะมีไพ่แบบสุ่มมา 2 ใบ จากทั้งหมด 6 แบบ คือ Wands, Cups, Swords, Pentacles, Queen และ King 

จากรูปชุด A ที่แกะมาได้กระรอก Queen กับ ไม้ ส่วนชุด B ได้กระรอก ถ้วย กับ เหรียญ

น่าจะมีคนสงสัยว่าไพ่กระรอกจะใส่หรือไม่ใส่ในสำรับดี สำหรับผมก็จะใส่ไปด้วย ถือเป็นไพ่พิเศษ ใครหยิบได้แสดงว่าคุณจะสุขสันต์เหมือนกระรอกแล้ว ฮา แต่ใครจะไม่ใส่ก็ไม่ว่ากันนะ เพราะไม่มีผลอะไร

ทิ้งท้าย


รูปด้านบน เป็นการเอาไพ่ 4 ชุดมาเทียบกัน ที่ผมต้องการให้ดูคือ ลายเส้น
สำหรับไพ่ After Tarot คนวาดพยายามวาดให้เหมือนกับต้นฉบับ ส่วน Before Tarot คนวาดใช้ลายเส้นในแนวทางของตัวเอง ซึ่งก็เหมือนกับไพ่ Shuffle Tarot ที่มีแนวทางของตัวเอง ทั้งองค์ประกอบ รายละเอียด ถือว่าไม่แพ้กัน

ขอบคุณทุกคนที่พยายามอ่านกันจนจบนะครับ ตกหล่นประเด็นใด ไว้ค่อยไปโพสที่เพจเอา เพราะตอนนี้ก็นึกอะไรไม่ออกแล้ว มึน ถือว่าเป็นไพ่ชุดหนึ่งที่รีวิวยากพอสมควร ไม่สามารถบอกได้อย่างที่คิด เอาไว้ลองค้นหากันเองแล้วกัน ต้องลองใช้ครับ เชื่อว่าทุกคนสามารถจะทำความเข้าใจและเรียนรู้กับไพ่ชุดนี้ได้ :)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น