วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

อ่านอารมณ์ไพ่ กับ Anna. K Tarot

ที่มา

ภาพจาก Amazon.com
ผมจำไม่ได้แล้วว่าเมื่อไหร่ที่เห็นไพ่ชุดนี้ Anna. K Tarot น่าจะช่วงที่ไปเดินตร็ดเตร่ที่เวป Amazon เพื่อไปดูไพ่ใหม่ๆ และบังเอิญไปเจอไพ่ชุดนี้เข้า ตอนนั้นยังไม่ได้วางขาย แต่อยู่ในช่วง pre-order ผมได้สั่งไปชุดนึง เพราะติดใจไพ่ High Priestess ซึ่งต่างจะไพ่อื่นๆ ที่จะเป็นผู้หญิงนั่งอยู่ระหว่างเสาสองต้น แต่ไพ่ชุดนี้ High Priestess นั่งหลังพิงต้นไม้ กำลังมองดูการเปลี่นยแปลงของดวงจันทร์ จากข้างแรม ไปข้างขึ้น และก็กลับมาข้างแรมอีก แม้ว่ารูปภาพจะไม่ได้สวยงามแบบไพ่ชุดอื่น แต่แสดงสีหน้าและอารมณ์ออกมาอย่างชัดเจน สีสันของภาพก็ไม่แพ้กัน

เมื่อถึงกำหนดไพ่ Anna. K Tarot ออกวางจำหน่าย วันที่ 8 พฤษภาคม 2013 .. ใช่ครับเป็นวันเดียวกับที่ออก Illuminati Tarot ผมก็รอทาง Amazon ส่งของ ระหว่างรอนั้นได้เห็นไพ่ชุดนี้มีจำหน่ายที่ร้าน Kinokuniya ผ่านทางเวปไซต์ จึงได้สั่งซื้อไป คิดว่าน่าจะได้เร็วกว่าทาง Amazon .. เร็วจริงๆ ครับ แต่เป็นแจ้งว่า ของเสียหาย ไม่สามารถขายได้ และก็มีแค่ชุดเดียวด้วย เศร้า ก็ต้องรอต่อไป (ถึงวันนี้ทางร้าน Kinokuniya ก็ไม่ได้สั่งมาเพิ่ม ไม่เข้าใจเหมือนกัน)

และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง (ก็ไม่ได้คอยสักเท่าไหร่หรอกนะ) แกะกล่องออกมาดู ก็ไม่ผิดหวังครับ

ไพ่ Anna. K Tarot

Anna K.
ไพ่ Anna. K Tarot ผู้ที่สรรสร้างขึ้นมาน่าจะพอเดาได้นะครับ ว่าชื่ออะไร .. ใช่ครับ คุณ Anna K. นั้นเอง หรือชื่อเต็มว่า Anna Klaffinger

คุณ Anna. K เริ่มทำไพ่ทาโรต์ตั้งแต่อายุ 13-14 ปี แสดงถึงความสามารถตั้งแต่เด็กๆ เลยครับ ก็ค่อยๆปรับปรุงเรื่อยมา ก็มีหยุดๆ ทำๆ บ้าง ผ่านไปสัก 10 ปี ไพ่ทาโรต์ชุดแรกก็สำเร็จออกมา เธอได้นำไปใช้ทายเพื่อนๆ ช่วงที่ไปเที่ยว Ireland ด้วยกัน ผลตอบรับดีมาก เธอจึงคิดที่จะพิมพ์ออกมาขายจริงๆจังๆ แต่ก็ไม่ง่ายสักทีเดียว เมื่อไม่มีสำนักพิมพ์ไหนยอมพิมพ์ให้ แต่ด้วยกำลังใจจากพ่อแม่ เธอจึงได้ตัดสินใจที่จะพิมพ์ออกขายเองในปี 2008 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี .. ดีใจด้วยครับ เย้ .. และพิมพ์ครั้งที่สองในปี 2010

เมื่อดัง สำนักพิมพ์ก็วิ่งหา .. สำนักพิมพ์ Llewellyn ได้ติดต่อคุณ Anna K. เพื่อที่จะขอลิทธิ์ในการพิมพ์ไพ่ของเธอออกจำหน่าย ก็ได้เป็นไพ่ชุดที่อยู่ในมือผมนั้นเอง สรุปไพ่ Anna. K Tarot จะมี 2 เวอร์ชัน คือ เวอร์ชันที่จำหน่ายโดยคุณ Anna K. เอง กับเวอร์ชันที่จำหน่ายโดย Llewellyn

ผมเพิ่งมาทราบทีหลังเอง หลังจากที่ได้รับไพ่ชุดนี้จาก Amazon แล้ว (จำหน่ายโดย Llewellyn) ว่าไพ่ชุดนี้มีเวอร์ชันที่จำหน่ายโดยคุณ Anna K. เอง เมื่อได้อ่านคู่มือที่มาพร้อมกับไพ่ และได้เข้าไปดูในเวปไซต์ของคุณ Anna K. ที่ annak-tarot.at จึงได้สั่งซื้อไพ่ที่จำหน่ายโดยคุณ Anna K. เองมาด้วย (ใครสนใจลองเข้าไปดูที่เวปที่ให้ไว้นะครับ) และทำให้ทราบว่า ช่วงอายุสิบขวบ คุณ Anna K. ได้มาเที่ยวกับครอบครัว ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ของเรานี่เอง .. เอ๋ หรือเธอจะได้แรงบันดาลใจจากประเทศเราไปเน้อออ ฮา

 

Self-Publish vs Llewellyn

Self-Publish vs Llewellyn
(คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่)
ความแตกต่างระหว่างเวอร์ชันที่คุณ Anna K. จำหน่ายเอง กับ เวอร์ชันที่จำหน่ายโดย Llewellyn อยู่ที่กล่องบรรจุ ชื่อไพ่ และขอบไพ่ ให้ดูรูปด้านขวามือประกอบนะครับ





Self-Publish จำหน่ายโดยคุณ Anna K.
(คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่)


สำหรับเวอร์ชันที่จำหน่ายเองโดยคุณ Anna K. กล่องจะเล็กกว่า แข็งกว่า บนหน้ากล่องจะเป็นรูปไพ่ High Priestess พร้อมมีลายเซ็นของคุณ Anna K. ใครชอบสะสมไพ่ พลาดไม่ได้เลยครับ

เมื่อเข้าไปดูภายในกล่อง หนังสือคู่มือหน้าปกจะเป็นรูปไพ่ High Priestess เหมือนหน้ากล่อง ตัวไพ่จะแบ่งออกเป็น 2 กอง ให้สังเกตที่ขอบไพ่นะครับ จะมีสีต่างกัน ตามชุดของไพ่ Major, Minor





จำหน่ายโดย สำนักพิมพ์ Llewellyn
(คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่)
ส่วนเวอร์ชันที่จำหน่ายโดย Llewellyn กล่องจะใหญ่กว่า บนหน้ากล่องมีรูปไพ่หลายใบ
 ภายในกล่องจะประกอบไปด้วยคู่มือหน้าปกสีเหมือนเนื้อไม้ และไพ่ห่ออยู่ในพลาสติก จะมีขอบไพ่สีดำหมดทุกใบ







ซ้าย: Llewellyn, ขวา: Self-Publish
(คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่)
เรามาดูความแตกต่างระหว่างไพ่ทั้งสองเวอร์ชันกันดีกว่านะครับ ไพ่ที่จำหน่ายโดยคุณ Anna K. จะมีขนาดเล็กกว่า และไพ่แต่ละใบจะหนากว่า เนื่องจากกระดาษคนละแบบ เมื่อกองเทียบกันแล้ว กองไพ่จะสูงกว่า ไพ่ที่จำหน่ายโดย Llewellyn แม้ไพ่จะใหญ่กว่า (สำหรับคนมือเล็กๆ อาจจะลำบากนิดนึง) แต่จะคลี่ไพ่ได้ง่ายและลื่นกว่า
ชื่อไพ่สำหรับ Llewellyn จะแสดงไว้ด่านล่าง ส่วนของคุณ Anna K. จะพิมพ์ไว้ด้านบน จะเห็นว่าสีและขนาดของขอบไพ่จะต่างกัน

อ๋อ แต่ภาพเหมือนกันนะครับ ไม่ต้องห่วง ฮา



ซ้าย: Llewellyn, ขวา: Self-Publish
(คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่)





Llewellyn
(คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่)
ส่วนคู่มือที่มาพร้อมกับไพ่ ของทั้งสองเวอร์ชัน รูปเล่มก็จะแตกต่างกันเช่นกัน โดยของ Llewellyn จะเป็นเล่มแบบ pocket เข้าสันกาว จะแสดงรูปหน้าไพ่หนึ่งหน้า พร้อมกับความหมายอีกหนึ่งหน้าแยกกันต่างหาก








Self-Publish
(คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่)
ส่วนคู่มือของคุณ Anna K. จะเป็นเล่มบางยาว เย็บแม็กตรงกลางหน้าคล้าย LWB ในหนึ่งหน้าก็จะมีทั้งรูปและความหมายของไพ่





น่าจะพอเห็นภาพความแตกต่างระหว่าง 2 เวอร์ชันนี้แล้วนะครับ ถ้าใครยังรู้สึกว่าไม่ชัดเจน ก็ลองสั่งซื้อมาทั้งสองแบบ และเปรียบเทียบดูนะครับ .. ฮา
 

เรามาเข้าเรื่องตัวไพ่กันดีกว่านะครับ

คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่
โครงสร้างของไพ่ชุดนี้อิงตามมาตรฐาน Rider Waite ครับ แบ่งเป็น Major และ Minor อีก 4 ชุด แต่ที่จะต่างนิดหน่อยคือ ไพ่ไม้ จะไม่ใช่คำว่า wand แต่จะใช้คำว่า rod ส่วนไพ่เหรียญ จะไม่ใช่คำว่า pentacle แต่จะใช้คำว่า coin แทน ส่วนไพ่ถ้วย และดาบ เป็น cup และ sword เหมือนเดิม

อย่างที่ผมได้บอกไปตอนต้นแล้วว่า ที่ชอบไพ่ชุดนี้เพราะสีหน้า และอารมณ์ของไพ่แต่ละใบแสดงออกได้อย่างชัดเจน คุณ Anna K. เธอต้องการที่จะสื่ออารมณ์ของไพ่ออกมาให้ชัดเจน ถ้าโกรธก้อคือโกรธ ถ้าพอใจก้อคือพอใจ ไม่มีอ้ำๆอึ้งๆ ไม่อยากให้เหมือนไพ่บางชุดที่สวย แต่ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าอารมณ์ไหน .. อาจจะนึกภาพไม่ออกใช่ไหมครับ งั้นมาลองดูไพ่ตัวอย่างกันดีกว่าครับ

ลองดูไพ่ Empress นะครับ อยู่แถวที่ 2 ใบที่ 3 รูปผู้หญิงนั่งออกท้วมๆ ถ้าเห็นไม่ชัดก็คลิ๊กดูภาพใหญ่เอานะครับ ไพ่ Empress ส่วนใหญ่ จะเป็นรูปผู้หญิงใจดี อารมณ์ดี แม่พระ อะไรทำนองนั้น แต่พอผมเห็นไพ่ Empress ชุดนี้ครั้งแรก ความรู้สึกแรก เอ๊ะ .. เราเข้าใจผิดหรือเปล่า ทำไมรู้สึกว่าดุจัง ไม่เห็นจะใจดี แม่พระเลย เพื่อความแน่ใจเลยลองไปดูความหมายในคู่มือ และก็อย่างที่คิดครับ ไพ่ Express ชุดนี้สื่อออกมา 2 อารมณ์ ถ้าอารมณ์ดีก็ดีใจหาย แม่พระมาโปรด แต่ถ้าไม่พอใจขึ้นมา ก็ผีเสื้อสมุทรมาเอง .. ตายละหว่า ตัวใครตัวมันล่ะคร้าบบ

อาจจะลองดูไพ่ใบอื่นอีกนะครับ ไพ่บางใบ ความหมายอาจจะไม่ตรงกับความหมายมาตรฐานสักทีเดียว อย่างไพ่ 5 ไม้ ชุดนี้จะออกแนวแข่งขันกันแบบสนุกสนาน ไม่เอาเป็นเอาตายเหมือนไพ่ชุดมาตรฐาน แต่บางใบก็อาจจะโหดกว่าเช่นไพ่ 5 ดาบ ออกไปทางปล้น หรือสงครามกันทีเดียว

ใครอยากจะดูรูปไพ่ให้ครบทั้งชุด ลองไปดูได้ที่เวปของคุณ Anna K. นะครับ หรือไม่ก็ไปที่ Facebook FanPage "ตะกร้าหวาย กับ ไพ่ทาโร่ต์" จะใส่ไว้ในอัลบัมรูปไว้ให้ครับ



งานนี้ไม่มีเปิดไพ่ตัวอย่างให้ดูนะครับ ใครสนใจรีบหามาเป็นเจ้าของนะครับ โดยเฉพาะคนที่ชอบอ่านไพ่จากภาพ และอารมณ์ ชุดนี้ใช่เลย ^^






 

วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

อลังการ กับ Tarot Illuminati

ที่มา

ใครติดตามความเคลื่อนไหวของไพ่ทาโรต์ตลอดเวลา น่าจะพบกับกระแสไพ่ทาโร่ต์ชุดนึง เมื่อปลายปี 2011 ถึงความอลังการ และความสวยงามของไพ่ ที่มีรายละเอียดเยอะมาก ไพ่ใบแรกที่ถูกปล่อยออกมาให้สาธาณะชนชาวเฟสบุ๊คได้เห็นคือ ไพ่ Queen of Sword และหลังจากนั้น ก็มีไพ่ใบอื่นๆ ถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆ สร้างความอยากให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก .. ฮา
Queen of Swords
รูปจาก Facebook ของ Tarot Illuminati

สำหรับช่วงนั้นผมยังไม่ทราบระแคะระคายอะไร เพราะยังไม่ได้เริ่มสนใจไพ่ทาโรต์เลย อย่างที่เคยเล่าไปแล้วว่า เพิ่งมาสนใจไพ่ทาโร่ต์ เมื่อต้นปี 2012 .. มาเห็นไพ่ชุดนี้เมื่อ ดร.เซ่ ได้ลงบล็อครวมรวมไพ่ที่หน้าสนใจ เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว ถึงได้ทราบว่าไพ่ชุดนี้ชื่อว่า Tarot Illuminati และได้สั่งจองที่เวป Amazon เป็นที่เรียบร้อย เมื่อใจพร้อม เม้าส์ก็ทำงาน .. ฮา

พอมีนาคม 2013 พี่ที่เรียนไพ่ด้วยกัน ได้ลงรูป ไพ่ High Priestess ในกลุ่ม ตอนนั้นไม่มีใครทราบว่าเป็นไพ่ชุดไหน แต่ชอบกันมาก High Priestess ช่างดึงดูดใจนัก ผมก็ไม่ได้นึกถึงชุด Tarot Illuminati ที่ได้สั่งไปเลย เพราะมาเห็นอีกทีก็ 6-7 เดือนเข้าไปแล้ว และรูปในที่ ดร.เซ่ เอามาลงก็ไม่มีรูปนี้ด้วย จนคนนึงในกลุ่มทราบชื่อชุด ก็เป็นที่ดีใจของคนในกลุ่ม จึงได้จองสั่งซื้อเพิ่ม เสียตังค์ไปตามๆ กัน

High Priestess
รูปจาก Facebook ของ Tarot Illuminati
ชุดนี้ที่รอคอย :)
(คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่)
ไพ่ Tarot Illuminati ได้เริ่มผลิตเมื่อเดือนเมษายน 2013 และออกจำหน่ายเมื่อ 8 พฤษภาคม 2013 ล็อตแรกหมดอย่างรวดเร็ว เพราะเข้าไปดูในเวป Amazon แล้ว แจ้งสถานะเป็น Out of Stock ก็ต้องรอและลุ้นต่อไปว่าจะได้ไพ่มาเมื่อไหร่ และจะได้ชุด Kit ซึ่งจะมีเฉพาะพิมพ์ชุดแรก หรือไม่ ด้วยได้ยินข่าวลือมาว่า ไพ่ขอบทอง จะมีเฉพาะชุดแรกๆ เท่านั้น .. จนวันนึง ได้รับเมล์แจ้งจาก Amazon ว่าได้มีการจัดส่งไพ่มาให้แล้ว โล่งใจแล้วครับว่าได้แน่นอน และวันที่ 16 มิถุนายน 2013 ไพ่ Tarot Illuminati ที่รอคอยก็มาถึงมือ พร้อมกับนัดเอาไพ่ไปให้กับคนที่จองไว้พร้อมกัน ไม่ต้องบอกก็พอจะทราบครับ ดีใจกันสุดๆ ยิ่งเห็นของจริง ยิ่งชอบกันใหญ่

ก็จึงมาเป็นที่มาของบทความนี้ครับ ^^

Tarot Illuminati

Erik C. Dunne
ไพ่ Tarot Illuminati สรรสร้างโดย Erik C. Dunne เป็นทั้งผู้คิดค้น และวาดภาพขึ้นมาเอง โดยอาศัยคอมพิวเตอร์กราฟฟิค คงไม่ต้องบรรยายถึงความสามารถทางด้านศิลปนะครับ เห็นภาพที่ออกมาแล้ว ทั้งความสวยงาม ลายละเอียด ซึ่งแทบจะทุกจุดของภาพเลยทีเดียว (แต่ก็เป็นจุดอ่อนไปในตัว จะแบบไหนเดี๋ยวค่อยว่ากันครับ) ส่วนคู่มือที่มาพร้อมกับชุดไพ่ เขียนโดย Kim Huggens ผู้เขียนหนังสือ Tarot 101: Mastering the Art of Reading the Cards เป็นผู้ที่ถูกเลือก ให้มาเขียนคู่มือสำหรับไพ่ชุดนี้โดยเฉพาะ



ภาพซ้าย เป็นแบบมาตรฐาน ที่มีแต่ไพ่
ภาพขวา เป็นแบบชุด Kit ที่มีไพ่ + คู่มือ
(ภาพจำลอง, คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่)

คำว่า Illuminati นี้ไม่ได้มาจากชื่อองค์กร Illuminati ที่ได้ยินมาจากภาพยนต์ว่าควบคุมโลกนี้อยู่ แต่มาจากรากศัพท์ภาษาลาติน คำว่า illuminatus ที่หมายถึง enlightened หรือการรู้แจ้ง


ไพ่ Tarot Illuminati ถูกผลิตโดยสำนักพิมพ์ Lo Scarabeo  พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ เมษายน 2013 และเริ่มออกจำหน่าย 8 พฤษภาคม 2013 มี 2 แบบ คือ แบบมาตรฐานที่มีแต่ไพ่ กับ แบบที่เป็นชุด Kit ซึ่งจะประกอบด้วยไพ่ และคู่มือ หน้ากล่องทั้งสองแบบจะเป็นรูป ไพ่ High Priestess




ไพ่ชุด Kit ประกอบไปด้วย ไพ่ + คู่มือ
ส่วนถุงผ้า ไม่เกี่ยวครับ เสียตังค์ซื้อต่างหาก
(คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่)
สำหรับไพ่ที่เป็นชุด จะมาพร้อมกับกล่องที่มีฝาเปิดปิดเป็นแม่เหล็ก ซึ่งค่อนข้างแข็งแรงทีเดียว ภายในกล่องจะมีคู่มือ และไพ่ที่ห่อพลาสติกไว้ .. ที่จริงผมอยากให้ไพ่ใส่กล่องเหมือนชุดมาตรฐานมาด้วยนะ เพราะต้องลำบากหาถุงผ้ามาใส่ เสียตังค์อีก :( เขาคงไม่คิดว่า คนซื้อเมื่อแกะไพ่ออกมาแล้ว จะเอากลับไปใส่กล่องเหมือนเดิมอ่ะนะ ฮา..

จากรูปซ้ายมือ ถุงผ้าไม่ได้มากับชุดไพ่นะครับ หาซื้อเอง ตามจุดประสงค์ของสำนักพิมพ์ .. ฮา (ล้อเล่นครับ)
ตอนแรกไม่คิดจะซื้อครับ แต่บังเอิญมีคูปองลดราคาพอดี เลยจัดไป เข้าชุดสุดๆ ^^

ไพ่ Illuminati

มาถึงเรื่องตัว ไพ่ Tarot Illuminati กันดีกว่านะครับ อย่างที่บอกไปแล้วว่าไพ่ชุดนี้ มี 2 แบบ สำหรับชุดมาตรฐานนี่ ผมยังไม่เคยเห็นของจริงนะครับ ไว้มีโอกาสจะเอามาลงเพิ่มเติม ส่วนที่เป็นชุด Kit ที่ผมมีนั้น ตัวไพ่จะเคลือบทองที่ขอบด้านข้าง ดูได้จากรูปนะครับ .. เมื่อแกะห่อพลาสติกออก ไพ่แต่ละใบจะติดกันอยู่ เนื่องจากความเหนียวจากการเคลือบทอง ทำให้ต้องแกะไพ่แต่ละใบออกจากกัน แต่ก็ไม่ใช่ทุกใบที่จะติดกัน ตอนแกะต้องระวังกันมากๆ นะครับ ไม่งั้นรูปของไพ่อีกใบ อาจจะไปอยู่ด้านหลังของไพ่อีกใบก็ได้ .. ฮา

ไพ่เคลือบทองที่ด้านข้าง
(คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่)
ไพ่ทุกใบขอบอกว่า สวยหมดครับ ทั้งรายละเอียด สัญลักษณ์ต่างๆ ตามแบบมาตรฐานไพ่ทาโร่ต์ เพราะไพ่ชุดนี้สร้างโดยอิงโครงสร้างและรูปแบบตาม Rider Waite แต่มีเพิ่มเติม ดัดแปลง ตามความเข้าใจของ คุณ Erik ทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย บรรยายกาศรอบภายในไพ่ จัดเต็มครับ .. จำได้ไหมครับ ว่าก่อนหน้านี้ผมได้บอกว่า ความละเอียด และซับซ้อนของภาพนี่แหละที่กลับมาเป็นจุดอ่อน ที่จริงก็ไม่ได้ถือว่าเป็นจุดอ่อนหรอกครับ แต่สิ่งที่มีมากเกินไปนี่แหละ ทำให้เวลาดูภาพ จะลายตามาก ใครมีไพ่ชุดนี้แล้ว น่าจะพอเข้าใจ .. แต่ให้อภัยได้ครับ เพราะไพ่เขาสวยจริงๆ .. ฮา
รูปจาก Facebook ของ Tarot Illuminati

ลองดูไพ่ High Priestess นะครับ ลายตามชุดแต่งกาย ตามเสาทั้งสองข้าง รูปพระจันทร์ที่มองผ่านช่องประตูออกไป อันนี้ผมชอบมาก เห็นไหมครับ แทบจะไม่มีพื้นที่ว่างเลย .. แต่บางคนอาจจะไม่ชอบภาพที่มีรายละเอียดเยอะๆ ก็ได้นะครับ นานาจิตตัง .. ส่วนด้านหลังไพ่ ก็สวยไม่แพ้กันครับ เรียกว่าเก็บหมด

ส่วนเวลาคลี่ไพ่ ไม่ลื่นอย่างที่คิดไว้ครับ น่าจะมีส่วนจากความเหนียวที่มาจากการเคลือบไพ่ และตัวกระดาษ แต่ใช้ไปนานๆ น่าจะดีขึ้น

ใครที่อยากจะดูรูปไพ่ รูปอื่นๆ ก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของ สามารถเข้าไปดูได้ที่ Facebook : Tarot Illuminati นะครับ เลือกไปที่ Photos

คู่มือ ไพ่ Tarot Illuminati

Kim Huggens
คราวนี้มาถึงคู่มือไพ่ชุดนี้กันครับ ขอบอกว่า ใครที่คิดจะซื้อเฉพาะไพ่อย่างเดียว ขอให้คิดใหม่ คิดหลายๆ รอบ เพราะคู่มือเล่มนี้ นอกจากเขียนโดยคุณ Kim Huggens (ซึ่งได้เริ่มเรียนรู้ไพ่ทาโร่ต์ตั้งแต่ 9 ขวบ  และเป็นเจ้าของหนังสือ Tarot 101) ที่มีความสามารถด้านไพ่ทาโรต์อย่างเต็มเปี่ยม คู่มือยังมาในรูปเล่มที่สวยงาม ใช้กระดาษอาร์ตมันทั้งเล่ม ทั้งหมด 157 หน้า และไพ่เคลือบขอบทอง ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่า ชุดมาตรฐานจะเคลือบทองให้ไหม

ในเล่มเขียน Foreward โดยคุณ Pamela Steele (ผมก็ไม่ทราบนะว่าเป็นใคร แต่ก็คงจะสำคัญ ไม่งั้นคงไม่ให้เขียนหรอกจริงไหม ฮา) มีแนะนำรูปแบบการวางไพ่ไว้ 4 รูปแบบ

  1. The Sun, Moon, and Stars Spread
  2. The Planetary Spread
  3. The Lighting the Lantern Spread
  4. The Rising Sun Spread

คำอธิบายไพ่ สำหรับไพ่ชุด Major ไพ่หนึ่งใบจะใช้ 2 หน้า หนึ่งหน้าสำหรับคำอธิบาย และอีกหนึ่งหน้าสำหรับรูปเต็มๆ สะใจ .. ฮา ส่วนไพ่ชุด Minor ไพ่หนึ่งใบ หนึ่งหน้า รูปจะเล็กกว่า แต่ที่สำคัญอยู่ที่คำอธิบายไพ่นี่แหละครับ คุณ Kim ไม่ได้เขียนบอกความหมายแบบทั่วๆ ว่าไพ่ใบนี่หมายถึงอะไร แต่เขียนในลักษณะมองมุมของไพ่เอง เหมือนไพ่เป็นคนบอกลักษณะนิสัยของตัวเอง ตัวเองคิดอะไร ต้องการทำอะไร คุณจะรู้จักไพ่เหมือนไพ่คุยกับคุณเลย .. น่าสนใจมากๆๆๆๆๆๆ

ไล่จากซ้ายไปขวา : หนัาปก , ไพ่ Major , ไพ่ Minor
(คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่)
นอกจากคู่มือเล่มนี้แล้ว คุณ Kim ยังได้เขียนคู่มือฉบับเต็มชื่อว่า Complete Guide to Tarot Illuminati เป็นเวอร์ชันสำหรับ Kindle ใครสนใจสั่งซื้อได้จากเวป Amazon นะครับ

ตัวอย่างการทำนาย

ก็มาถึงหัวข้อสุดท้ายแล้วนะครับ ที่จริงก็อยากเขียนบรรยายถึงความสวยงามของไพ่นี้ ไปจนกว่าคุณจะชอบจนได้ .. ฮา แต่มันก็ไม่ประทับใจกับการได้เป็นเจ้าของ และสัมผัสด้วยตัวเองจริงไหมครับ

ขอยกตัวอย่างว่าไพ่ชุดนี้น่าประทับใจขนาดนั้น วันก่อนผมเอาไพ่ชุดนี้ไปให้ อ. ที่สอนไพ่ผมคนนึงดู อ. ชมไม่ขาดปากเลยว่าไพ่สวยมาก ปกติ อ. ก็ไม่ค่อยอยากได้ไพ่ชุดไหน มีชุดนี้แหละครับ ที่เอ่ยปากอยากได้เป็นเจ้าของ ไม่ใช่ชุดเดียวด้วยนะครับ อยากได้ถึง 2 ชุด ชุดนึงไว้ใช้ อีกชุดนึงไว้เก็บ แล้วคุณล่ะ อิอิ

สัมภาษณ์ไพ่ Tarot Illuminati
(คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่)
เหมือนเดิมครับ เมื่อผมได้ไพ่วันแรก ไม่รอช้าเปิดออกสัมภาษณ์ไพ่ทันที หลังจากรอมาเกือบ 10 เดือน

แค่ใบแรกเปิดมาบอกถึงความไม่ธรรมดาเลย อย่างเห็นว่าสวยอย่างเดียวนะ ผมก็แรงเหมือนกัน (ไพ่พูดนะครับ ไม่ใช่ผม .. ฮา) ไพ่ Death เป็นไพ่อีกใบนึงที่ผมชอบในชุดนี้ สังเกตเห็น Tower สองอันด้านหลังไกลๆ ไหมครับ เหมือนเป็นอันเดียวกับในไพ่ The Moon เลย ไม่แน่นะ ถ้าคุณเดินเข้าไป อาจจะเจอหมาป่า รออยู่ก็ได้ ^^

ใบที่ 2 ไพ่ หนึ่งถ้วย กับใบที่ 3 ไพ่ Prince of Cups ไพ่บอกถึงการหยั่งรู้ สัญชาตญาณ ที่มาจากภายใน ว่าเราได้ฝึกฝน หรือหยิบมาใช้ได้มาน้อยแค่ไหน ก็อยู่ที่ตัวเราเอง ซึ่งก็สัมพันธ์กับไพ่ The Moon ใบที่ 5 ที่บอกถึงสัญชาตญาณ

ใบที่ 4 ไพ่ Queen of Pentacles ซึ่งไพ่ได้บอกถึงความเต็มเปี่ยม สมบูรณ์ที่มีอยู่ มีมากมาย ที่จะให้ได้เรียนรู้ เมื่อไปดูไพ่แต่ละใบแล้ว ก็จะเห็นสัญลักษณ์ต่างๆ มากมาย ในเราได้เรียนรู้มากมายจริงๆ

ส่วนใบสุดท้าย ไพ่ 1 ไม้ โอกาส สิ่งใหม่ๆ ที่จะได้เรียนรู้ พร้อมที่จะผลักดันเราก้าวไปข้างหน้า .. สู้ๆ



.. แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง ..

สุดท้ายครับ คุณ Erik ได้เซ็นชื่อลงบนชุดไพ่ของตัวเอง วางขายที่ร้าน New Visions Books & Gifts ผมได้ลองสั่งไปแล้ว แต่น่าเสียดายนะครับ ที่ทางร้านไม่มีบริการส่งนอกประเทศ


วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การเรียน การงาน กับ The Bright Idea Deck

ทักทาย

สวัสดีครับ .. ผู้อ่านทุกท่าน (ทั้งที่ตั้งใจมา หรือหลงมาเข้ามา ก็ดี แต่ก็ถือว่าเรามีวาสนาต่อกัน ^^)
บทความนี้เป็นรีวิวแรกของผม เกี่ยวกับไพ่ทาโรต์ ขอฝากเนื้อฝากตัวไว้ก่อนนะครับ ผิดพลาดอย่างไรก็ให้อภัยกันนะครับ

ขอเล่าความเป็นมาส่วนตัวกับไพ่ทาโรต์ สักเล็กน้อย ก่อนจะไปพูดถึงไพ่ชุด The Bright Idea Deck ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับมาที่มาเปิดบล็อครีวิวไพ่ทาโรต์  :)



ไพ่ใบที่ 10 จาก Celtic Cross
กับการดูไพ่ครั้งแรก
ผมเห็นไพ่ทาโร่ต์ครั้งแรกตอน ปวช มีพี่ในหอพัก (สมัยนี้คงไม่มีแล้วมั้งครับ) คนหนึ่งเอามาทายเล่นกัน เป็นไพ่ที่แถมมากับหนังสือของ อ.ขุนทอง ตอนนั้นผมจำได้ใบเดียว คือใบที่ 10 วางแบบเซลติก ครอส ได้ The Sun :) ทราบว่าเป็นไพ่ดี ก็ดีใจแล้วครับ

ตอนนั้นทายไม่ค่อยเป็นกันหรอกครับ เปิดหนังสือทาย เอาสนุกกันมากกว่า และก็ดูแต่ใบสรุปกัน
จากนั้นอีกหลายปี ก็ได้มีโอกาสซื้อหนังสือของ อ.ขุนทอง ว่าจะเอามาฝึกทายบ้าง แต่ความพยายามไม่มากพอ ดูไม่เข้าใจ เลยไม่ได้สนใจ เก็บเข้าตู้ ตอนนี้ก็หาไม่เจอแล้ว ว่าเก็บไว้ไหน แต่ก็ถือว่าเป็นไพ่ชุดแรกที่มี











กับการศึกษาไพ่ทาโรต์ครั้งแรก
เมื่อ 3-4 มีนาคม 2555
เมื่อ มีนาคม ปี 2555 ได้มีโอกาสไปลงเรียนไพ่ทาโรต์ กับ อ.หุย เป็นการกลับมาเจอกับไพ่ทาโรต์อีกครั้งในรอบหลายปีทีเดียว

ทีแรกก็ไม่ได้สนใจจะเรียน เพราะส่วนตัวไม่ชอบการทำนาย จะว่าอคติก็ได้ เราอาจจะชอบใจ ถ้าเขาดูตรง แต่แล้วยังไงล่ะ อีกอย่างผมก็ไม่เคยอยากจะไปดูให้ใคร ทำนองว่าเรียนแล้วต้องไปเป็นหมอดูว่างั้น

ก่อนจะลงเรียน จึงได้โทรไปคุยกับ อ.หุย ถามถึงสิ่งที่คาใจ เรียนแล้วต้องไปเป็นหมอดูไหม ใช้ดูตัวเองได้หรือเปล่า เรียนแล้วมีประโยชน์อะไรกับเราบ้าง การหยิบไพ่มันทายได้จริงหรือ แต่คำตอนหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าน่าสนใจ ที่จะศึกษาไพ่ทาโรต์ คือการนำมาช่วยในการให้คำแนะนำ แนวทาง แก้ไขปัญหา ในชีวิต ไม่ใช่อะไรที่งมงาย แต่เป็นข้อมูลอีกด้านหนึ่ง ที่จะเป็นข้อมูลเพิ่มเติม กับข้อมูลที่เรามีอยู่ ถ้าเรารู้จักเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์



ยังครับ .. ยัง ขอกล่าวถึงที่มาของบล็อคนี้อีกนิด แล้วจะรีบเข้าเรื่องไพ่ The Bright Idea Deck ^^

เมื่อไพ่มันบังตา
ภูมิต้านทานกระเป๋าตังค์ก็น้อยลง
ช่วงที่เรียนไพ่ทาโรต์ เห็น อ.หุย เอาไพ่มาหลายสำรับ ให้ดูเป็นตัวอย่าง ไอ้เราตอนแรกก็เข้าใจว่า ไพ่มันมีแบบเดียวคือ Rider Waite (หลายคนอาจจะเข้าใจเหมือนผม .. ฮา เอ๊ะ หรือมีผมคนเดียว) แต่ที่ไหนได้ เพิ่งมารู้ตอนนี้เอง ว่ามันมีหลายแบบ มากมายก่ายกอง (รูปไพ่ The Sun ก็เป็นไพ่ลำดับที่ 19 ของชุดนี้) บางคนในห้องก็มีอยู่หลายสำรับ อย่าง อ.หุย บอกว่ามีหลายสิบอยู่ ผมคิดในใจ ต้องมีเก็บมากขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วจะใช้ชุดไหนล่ะ มีเยอะขนาดนั้น และก็ไม่ได้คิดว่าจะซื้อเก็บ เพราะเห็นว่าไม่จำเป็น .. แต่ตอนนี้เกินหลักร้อยแล้วครับ .. ฮา ทำไงได้ความอยากมันบังตา ชุดนั้นก็สวย ชุดนี้ก็น่าสนใจ ทำให้นึกถึงไพ่ Devil เลย

ช่วงนั้นเข้าเวปไปหาข้อมูลเรื่องไพ่บ่อยมาก โดยเฉพาะเวปของ ดร.เซ่ ไพ่พยากรณ์ ถือว่าเป็นต้นเหตุสำคัญเลย ที่ทำให้ผมสะสมไพ่มากขนาดนั้น ใครที่ยังไม่เคยเข้าไป ขอเตือนนะครับ ระวังจะเสพติดไพ่เหมือนผม .. ฮา

ใครสนใจเรื่องไพ่ทาโรต์ หรือไพ่แบบอื่นๆ สนใจเข้าไปอ่านที่บล็อคของ ดร.เซ่ ได้นะครับ แนะนำเลย มีความรู้ดีๆ มากมาย รวมถึงรีวิวไพ่เด็ดๆ ละเอียดสุดๆ ผมก็ได้รับแรงบันดาลใจจากบล็อคนี้แหละครับ

 และเวปรีวิวไพ่ทาโรต์ Aeclectic Tarot ที่มีรูปตัวอย่างไพ่ทาโรต์มากมายให้ดู ตอนนั้นผมไล่ดูตั้งแต่ A-Z เลย ชุดไหนชอบก็ตามหาซื้อ ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เพราะบางชุดผลิตมานาน ขาดตลาดแล้ว

The Bright Idea Deck

เรามาเข้าเรื่องไพ่ The Bright Idea Deck ดีกว่านะครับ เดี๋ยวจะมีคนเบื่อสักก่อน :)
ผมชอบไพ่ชุดนี้ เมื่ออ่านบทความเรื่อง ความหมายตำแหน่งไพ่ ทำนาย 3 ใบ ตอนที่ 2 ซึ่งเป็นตอนต่อจากบทความเรื่อง วางไพ่ทำนาย 3 ใบ ของ ดร.เซ่
ในตอนที่ 2 ด้านล่างจะมีตัวอย่างไพ่ชุดนี้ นำมาเป็นแบบฝึกหัด ให้คนที่เข้ามาอ่านลองทายกันดู และข้อมูลของไพ่ชุดนี้ ลองเข้าไปอ่านกันดูนะครับ อย่างที่ผมบอกตอนต้นแล้ว ว่าบล็อคนี้อันตรายกับกระเป๋าสตางค์

เมื่อชอบก็ตามหา ก็ไปตามลิงค์ภายในบทความ แต่หมดแล้วครับ ที่อเมซอนไม่มีขายแล้ว ทำไงดีล่ะ :( ก็ไปลองหาที่สำนักพิมพ์ที่ผลิตก็ไม่มีเหมือนกัน ตอนนั้นตัดใจไปแล้วครับ .. ที่จริงในเวปอเมซอน จะมีคนมาลงฝากขายไว้ซึ่งไม่ผ่านอเมซอน มีที่แบบใช้งานแล้วและของใหม่ แต่ความเสี่ยงอยู่ที่เราจะกล้าเสี่ยงไหม ของใหม่จริงหรือเปล่า จ่ายเงินไปแล้วจะได้ของไหม บลาๆๆๆ .. แต่สุดท้ายก็เอามาจนได้ครับ ยอมเสี่ยงเพราะห้ามใจไม่ได้ ตอนนั้นได้มา 3 กล่อง สำหรับผมหนึ่งกล่อง อีก 2 กล่อง อ.วิโรจน์ (ผู้สรรสร้างไพ่ จาตุมหาราช ทาโรต์) และน้องแพร ฟอร์จูน ได้ไป ดีใจทั่วหน้า

ไพ่ The Bright Idea Deck ผู้สรรสร้างคือ Mark McElroy ภาพโดย Eric Hotz พิมพ์และจำหน่ายโดย Llewellyn ผลิตเมื่อปี 2005 ก็ปาเข้าไป 8 ปีแหละ ไพ่ชุดนี้มาเป็นเซต ในกล่องประกอบด้วย หนังสือคู่มือชื่อ Creative Brainstorming with The Bright Idea Deck และไพ่หนึ่งชุด ตามรูปด้านล่าง



ไพ่ชุด The Bright Idea Deck ในกล่องประกอบไปด้วย
หนังสือคู่มือ 1 เล่ม และไพ่ 1 ชุด
(คลิ๊กเพื่อดูรูปใหญ่)
ไพ่ชุดนี้ Mark McElroy สร้างขึ้นมาเพื่อต้องการ นำไพ่มาช่วยจุดประกายความคิด หาคำตอบ ดูได้จากคำโปรยบนกล่องที่ว่า Breakthrough to Brilliance หรือชื่อหนังสือที่ว่า Creative Brainstorming แม้แต่หลังไพ่ยังเป็นรูปหลอดไฟเลย องค์ประกอบในไพ่แต่ละใบ จะช่วยให้จินตนาการทางด้านความคิดเปิดกว้างขึ้น อย่างในคู่มือได้ยกตัวอย่าง การนำไพ่ไปใช้เป็นไอเดียในการประชุม วางแนวทาง หรือนักเขียนนำไปใช้วางแนวทางในการดำเนินเรื่อง แม้แต่คนทั่วไป ก็สามารถนำไปใช้เพื่อหาความคิดใหม่ ข้อดี ข้อเสีย ของปัญหา ในสถานการณ์ต่างๆ

 

ไพ่ The Bright Idea Deck

เริ่มต้นที่สำรับไพ่ชุดนี้เลยดีกว่านะครับ โครงสร้างหลักๆ จะเหมือนกับชุด Rider Waite มาตรฐาน แบ่งเป็นชุดหลัก (Trump cards) 22 ใบ และชุดรอง (Suit cards) 4 ชุดๆละ 14 ใบ รวม 56 ใบ


ไพ่แต่ละชุด แต่ละสี
(คลิ๊กเพื่อดูรูปใหญ่)
ไพ่ชุดหลัก จะมีขอบสีม่วง ซึ่งจะให้น้ำหนักในการทำนายมากกว่าชุดรอง ความหมายจะไปในเรื่องของวิธีการ แรงขับเคลื่อน และอิทธิพลต่างๆ ที่ควรในความใส่ใจเป็นพิเศษ

ไพ่ชุดรอง จะประกอบไปด้วยไพ่ 4 ชุด แบ่งตามสีของธาตุ ดังนี้
  • ไพ่ขอบสีแดง หรือเทียบกับไพ่ชุดไม้ ของ Rider Waite เน้นในสิ่งที่คุณต้องการ และสิ่งที่ควรทำ หรือไม่ควรทำ
  • ไพ่ขอบสีน้ำเงิน หรือเทียบกับไพ่ชุดถ้วย เน้นเรื่องสิ่งที่คุณรู้สึก และสาเหตุที่คุณรู้สึก
  • ไพ่ขอบสีเหลือง หรือเทียบกับไพ่ชุดดาบ เน้นเรื่องสิ่งที่คุณคิด และสาเหตุที่คุณคิด
  • ไพ่ขอบสีเขียว เทียบได้กับไพ่ชุดเหรียญ เน้นทุกสิ่งที่คุณเห็น รู้สึก ได้ยิน สัมผัส หรือได้กลิ่น รอบๆตัวคุณ
 ด้านล่างของไพ่แต่ละใบจะมีคีย์เวิร์ดกำกับไว้ เราสามารถอาศัยคีย์เวิร์ดนี้ช่วยในการทำนาย (ระดมความคิด หาคำตอบ แนะแนวทาง) หรืออาศัยรูปคน สิ่งของ สถานการณ์ อารมณ์ ภายในภาพก็ได้เช่นกัน

 ถึงแม้ว่าผมจะใส่หัวข้อเป็นเรื่องการเรียน การงาน สำหรับไพ่ชุดนี้ ซึ่งส่วนตัวแล้วไพ่ชุดนี้ให้ความรู้สึกไปในแนวทางนี้ อาจจะเป็นเพราะไม่เคยเห็นไพ่ทาโร่ต์ชุดไหน ที่ชี้ชัดไปในเรื่องการงานโดยเฉพาะ รูปภาพของไพ่ ที่แสดงให้เห็นถึงกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และการงาน (การเรียน สำหรับคนที่อยู่ในวัยเรียน) ก็เป็นกิจกรรมที่กินเวลาส่วนใหญ่ของเรา ซึ่งต้องอาศัยความคิด และแก้ปัญหาตลอดเวลา .. ถึงกระนั้น เราก็สามารถนำไพ่ชุดนี้ ไปทำนายในด้านอื่นๆ ได้เหมือนไพ่ทาโรต์ชุดอื่น ไม่แปลก หรือผิดแต่อย่างใด

เรื่องไพ่ไว้ไปพูดถึงในช่วงตัวอย่างการทำนายอีกที ขอกล่าวถึงคู่มือสักเล็กน้อย


คู่มือไพ่ The Bright Idea Deck
(คลิ๊กเพื่อดูรูปใหญ่)

คู่มือไพ่ The Bright Idea Deck

คู่มือที่มาพร้อมกับไพ่ ถ้าใครได้ลองอ่าน ผมคิดว่ามีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากนาย Mark McElroy เป็นผู้ออกแบบการฝึกสอน ให้กับบริษัทใหญ่ๆ หลายบริษท เช่น MCI, Office Depot และเป็นนักเขียน ด้วยเช่นกัน หลายคนอาจจะเคยได้อ่านหนังสือของเขามาแล้ว เช่น Putting the Tarot to Work, Taking the Tarot to Heart ถ้าใครมีไพ่ทาโร่ต์ชุด Lo Scarabeo (ชื่อเดียวกับสำนักพิมพ์ไพ่ชื่อดัง Lo Scarabeo)
ลองไปหยิบมาดูเลยครับ
.. หยิบมาหรือยังครับ
.. หยิบสิ
จะเห็นว่ามีชื่อของนาย Mark McElroy อยู่ด้วย ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหม และจากอาชีพของเขา ก็ไม่น่าเป็นที่แปลกใจเลย ที่เขาจะสรรสร้างไพ่ชุดนี้ขึ้นมา ในรูปแบบเฉพาะตัว




กลับมาที่หนังสือต่อ สิ่งที่ผมเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนอ่านคือ หัวข้อ Exploration ซึ่งเป็นการตั้งคำถาม กับสิ่งที่อยู่ในไพ่ ทำไมจึงมีสิ่งนั้น มันแสดงถึงอะไร ให้ความรู้สึกอย่างไร เป็นการตั้งคำถามให้คิด เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งนั้นๆ ตามความรู้สึกของเรา


ตัวอย่างเนื้อหาภายในหนังสือ
(คลิ๊กเพื่อดูรูปใหญ่)
อย่างเช่น ไพ่หมายเลข 0 - Freedom (เทียบเท่ากับไพ่ The Fool ของ Rider Waite สามารถดูรูปไพ่ใบนี้ในหัวข้อ ตัวอย่างการทำนาย) ซึ่งมีการตั้งคำถามถึง สายรุ้ง ที่อยู่ในภาพว่าแสดงถึงอะไร คนที่กำลังกระโดดข้ามสายรุ้ง แสดงถึงอารมณ์หรือกิจกรรมอะไรได้บ้าง

 สิ่งที่ผมคิดว่าหนังสือน่าจะใส่ไปด้วยคือ รูปไพ่ ไม่งั้นมาคอยหยิบไพ่ดูประกอบตลอดเวลา เมื่อยน้าา


ตัวอย่างการทำนาย

คราวนี้มาลองใช้ไพ่ The Bright Idea Deck มาทำนายกันบ้างดีกว่า ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง เริ่มจากสับไพ่และคลี่ไพ่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว


คลี่ไพ่เตรียมพร้อม
(คลิ๊กเพื่อดูรูปใหญ่)

ไพ่ชุดนี้กระดาษบางและลื่นพอควร เวลาสับต้องคอยระวังเหมือนกัน ไพ่แอ่นเล็กน้อย เกิดจากกระดาษที่บาง แต่ก็ช่วยให้คลี่ไพ่ได้ง่าย

ที่ผมลองทำนายคือ การสัมภาษณ์ไพ่ ในรูปแบบของ ดร.เซ่ ใครสนใจลองเข้าไปอ่านดูนะครับ เราจะได้ทำความรู้จักกับไพ่ที่เราใช้ให้มากขึ้น รูปแบบนี้จะใช้ไพ่ทั้งหมด 6 ใบ มีความหมายแต่ละตำแหน่งดังนี้

รูปแบบการวางสัมภาษณ์ไพ่
(คลิ๊กเพื่อดูรูปใหญ่)
  1. บุคคลิกลักษณะของไพ่
  2. จุดแข็งของไพ่
  3. ข้อจำกัดของไพ่
  4. คำแนะนำจากไพ่
  5. เราจะเรียนรู้ไพ่ได้อย่างไร
  6. ผลสรุป
สำหรับมือใหม่หัดทายอย่างผม ก็ไม่อยากปล่อยไก่ท่ามกลางสาธาณะชนหรอกครับ .. ฮา แต่ไพ่ทาโรต์ ถ้าไม่ฝึกบ่อยๆ ก็คงจะชำนาญยาก ก็รวมถึงสายวิชาอื่นๆ เหมือนกัน ที่ต้องการการฝึกฝน ลองดูครับ

แจ้งก่อนว่า การสัมภาษณ์ไพ่ แต่ละคนก็จะได้ไพ่ไม่เหมือนกันแน่นอน เพราะมันเป็นความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับไพ่ของคุณ ถึงแม้ว่าไพ่จะแบบเดียวกันก็ตาม และนี่ก็เป็นรูปแบบความสัมพันธ์ของผมกับไพ่ เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจนะครับ ถ้าคุณไปเปิดแล้วต่างจากผม เพราะผมก็ต่างจากคุณ .. ฮา

เริ่มจริงๆ แหละ .. สำหรับใบแรกบุคคลิกลักษณะของไพ่ ได้ไพ่ Freedom (เทียบได้กับไพ่ The Fool) ดูท่าทางจะไม่ค่อยสนใจกฎเกณฑ์สักเท่าไหร่นะครับ ผมก้อไม่ชอบผูกไท เหมือนกัน อึดอัด (ถึงจะดูดีก็เถอะ) ไม่รู้ว่าลักษณะของไพ่ หรือเจ้าของไพ่กันแน่ .. ฮา เอาว่าไม่ยึดติดในกรอบดีกว่า สามารถใช้จินตการได้ สายรุ้งสำหรับผมก็คงจะเป็นความหวัง มือซ้ายถือคธาหัวตัวตลก มือขวาถือนาฬิกาทราย ที่ทรายหล่นมาหมดแล้ว สำหรับควาย หนังสือ ไข่ ผมก็ไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร ใครทราบก็บอกด้วยนะครับ

ใบที่ 2 จุดแข็ง ไพ่ Satisfaction คนนั่งเก้าอี้แบบสบายๆ ห้อมล้อมด้วยดอกไม้ เหมือนมาพักผ่อน พักร้อนเลย คงจะบอกว่าให้ใช้ได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องเกร็ง ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ฮา .. อ้อ ถ้าเปรียบกับไพ่ Rider Waite ก็คือไพ่ 9 ถ้วย ซึ่งก็เป็นความพึงพอใจเหมือนกัน

ใบที่ 3 ข้อจำกัด ไพ่ Cooperation หัวข้อนี่เป็นอะไรที่ผมตีความหมายไม่ค่อยจะได้นัก แต่ลองดูครับ จากภาพเห็นเป็นคน 2 กลุ่ม กลุ่มที่อยู่ใกล้ช่วยกันสร้างปราสาท (ถึงจะเป็นทรายก็เถอะ) ส่วนกลุ่มที่ 2 ไกลๆ มีอยู่คนเดียว สำหรับผมเห็นเป็นการเปรียบเทียบการทำงานเป็นทีม สามารถสร้างผลงานได้ดีกว่า ลุยเดียวคนเดียว ถ้าให้แปลในความหมายข้อจำกัด คงเป็นการบอกกลายๆ ว่า ให้ร่วมมือกับฉันสิ (หมายถึงไพ่) แล้วเรามาสร้างปราสาทด้วยกัน ดีกว่าไปนั่งทำคนเดียวนะ หัวเดียวกระเทียมลีบ .. ฮา เทียบกับ Rider Waite ไพ่ 6 เหรียญ แล้ว สำหรับผมความหมายอาจจะต่างกันไป

กำลังมันต่อ ใบที่ 4 กันเลย คำแนะนำจากไพ่ ที่อยากจะบอก .. ยิ่งอ่านเหมือนไพ่จะว่าผมเลย .. ไพ่ Exhaustion ในภาพจะเห็นผู้ชายโดนมัดติดกับเก้าอี้ แถมล็อคกุญแจอีกต่างหาก ให้ทำงานที่กองอยู่บนโต๊ะให้เสร็จ ไม่ว่าจะโดนคนอื่นบังคับให้ทำ หรือว่าเราบังคับตัวเอง แต่รู้สึกเหนื่อยจังเลย อยากพักบ้าง ไรบ้าง .. ฮา ไพ่บอกให้วาง อย่าไปยึดกับหนังสือ หรืองานเครียดๆนัก หยิบกุญแจขึ้นมาสิ (อาจจะมองไม่เห็นงานมันบ้งหมด) ปลดปล่อยตัวเอง ให้เป็นอิสระ เหมือนกับไพ่ใบล่าง :) เทียบกับ Rider Waite ก็เป็นไพ่ 10 ไม้ งานหนักแบกหลังโก่ง เฮ้ออ

ต่อๆ ใบที่ 5 ผมจะเรียนรู้ไพ่ได้อย่างไร ไพ่ Examination ก็จะไม่ให้บอกได้อย่างไร ว่าไพ่กำลังหยิกผมเล็กๆ .. เจ็บนิดๆ อ่ะ เจ็บนิดๆ .. ฮา  ใบนี้เป็นไพ่ใบหลัก เหมือนกับ Freedom ในภาพหมอกำลังตรวจฟันอยู่ (ใครอยากบอกว่าขูดหินปูนก็ไม่ว่ากัน) ฟันล่างจะมีสีแตกต่างอยู่ซี่นึง จะว่าฟันผุ หรือกำลังจะผุ ก็ได้ ไพ่กำลังบอกผมว่า ให้ไปตรวจฟัน (หรือฝึกดูให้คนอื่นบ้าง) อย่างนั้นจะรู้ได้อย่างไรว่า ซี่ไหนผุ (สามารถทำนายได้ถึงไหนแล้ว) ถ้าพูดถึงไพ่ Rider Waite ก็คือ ไพ่ Judgement แต่สำหรับไพ่ระบบ Thorth แล้วไพ่ใบที่ 22 มีความหมายถึง ฟัน ด้วย ตรงไปเปล่าเนี่ย .. ฮา

 ใบสุดท้ายแล้วครับ ใบที่ 6 ผลสรุปความสัมพันธ์ระหว่างผมกับไพ่ ได้ไพ่ Learning - Impression สำหรับไพ่ที่ขึ้นต้นด้วย Learning เปรียบเสมือนไพ่ Page เป็นช่วงการเรียนรู้ ยังไงยังงั้น ความสัมพันธ์ไปในทำนองเรียนรู้ศึกษากันไป ถูกบ้างผิดบ้าง เป็นเรื่องปกติ เพราะคนเราชอบไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะชอบที่เราทำนาย แต่อีกคนอาจจะไม่ชอบ เราก็มือใหม่หัดอ่านนิ สำหรับ Rider Waite ก็เป็น ไพ่ Page of Cup

ขอเวลาทำใจแป๊บนึงครับ โดนไพ่ตำหนิ :( .................

มาต่อตัวอย่างสุดท้ายกันนะครับ ผมได้ลองเปิดไพ่ 3 ใบ ทำนายงานช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ใช้การวางไพ่ง่ายๆ ครับ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งก็คือช่วงเดือนนี้


ถามเรื่องงาน อดีต ปัจจุบัน อนาคต
(คลิ๊กเพื่อดูรูปใหญ่)

ดูกันให้ชัดๆ เลยครับ ว่าเป็นยังไงบ้าง จะรอดไหม .. ฮา ผมคงจะไม่เทียบกับไพ่ชุด Rider Waite แล้วนะครับ เพราะบางท่านที่อ่านไพ่จากหน้าไพ่ จะสับสนเอาได้ ผมดูไพ่สุดท้าย Learning - Validation ก่อนเลย ท่าทางจะรอดนะเรา .. ฮา เชฟ ยกนิ้วให้นี่ เราสอบผ่านชัวร์ หลังจากพยายามมาหลายครั้ง .. ใช่ครับ ต้องอาศัยความพยายาม ไพ่ใบกลาง Motivation หรือสถานการณ์ปัจจุบัน ผมต้องการแรงขับดัน เพื่อให้ได้ถ้วย อาจจะต้องกระตุ้นตัวเองด้วยซ้ำไป จากแส้ที่เห็น คงไม่มีใครมาตีผมหรอก แต่อาจเป็นความเจ็บปวดที่จะได้รับ ถ้าทำงานไม่เสร็จ กลับมาที่ไพ่ใบแรก Shadow ไพ่ใบนี้ตีได้หลายความแล้วแต่จะมอง สำหรับแว่บแรก คือ ลังเล ไม่รู้ว่าจะใช้หน้าไหน แปลเรื่องงานก็สับสน ว่าจะทำอะไรดี อันไหนก่อน อันไหนหลัง ทำให้พาลล่าช้ากันไปหมด ถึงส่งผลมาถึงปัจจุบันที่ต้องลงแส้กันหน่อยล่ะ .. ฮา

ใครแปลความหมายอย่างไร ก็บอกกันมั้งนะครับ

ไม่น่าเชื่อว่าจะเขียนมาได้ยาวขนาดนี้ สำหรับบทความแรก ใช้เวลาทั้งวันเหมือนกัน ไม่เคยทำอะไรได้นานขนาดนี้เลย แม้แต่งาน .. ฮา ไว้ถ้ามีเรื่องอะไรหน้าสนใจ เกี่ยวกับไพ่ The Bright Idea Deck จะมาลงเพิ่มเติมภายหลังนะครับ

ขอขอบคุณที่ทนอ่านจนจบนะครับ แล้วเจอกันใหม่บทความต่อไป .. ราตรีสวัสดิ์ครับ

ตะกร้าหวาย
2/7/2556 22:54