วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Dali Tarot กับ ไพ่ระดับมาสเตอร์พีช ที่ไม่ควรพลาด

ถือว่าเป็นการแซงคิวปาดคอสะพานเลยทีเดียว สำหรับไพ่ชุดนี้ ทันทีที่แกะห่อพัสดุ  แค่เห็นกล่องไพ่ก็อึ้งไปนิดนึง
...............
...............
...............

ไม่คิดว่าจะทำออกมาแบบนี้ เอ๊ะๆ ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ ดีเกินไปด้วยซ้ำกับราคาที่จ่ายไป พอเปิดฝากล่องออกมา หยิบหนังสือออกช้าๆ ค่อยๆ แกะห่อพลาสติกออก พร้อมกับคลี่ไพ่ .. บอกได้คำเดียวตัวโตๆ เลยครับว่า

******* คุ้ม ********

ขอเติมอีกนิดว่า .. สุดๆ


ภาพจาก Wikipedia

ไพ่ชุดนี้มีชื่อ Dali Tarot Universal

หลายท่านอาจจะเห็นหน้าค่าตาไพ่ชุดนี้บางใบไปแล้วจากโพสก่อนหน้า ภาพศิลปแบบสีน้ำมัน โดยสุดยอดศิลปินชาวสเปน Salvador Dalí (1904-1989) ที่วาดภาพในแนว Surreal หรือแนวเหนือจริง เกินจริง และภาพที่เป็นที่รู้จักกันมาก ภาพหนึ่งของเขามีชื่อว่า The Persistence of Memory 

Dali ได้วาดภาพไพ่ทาโรต์ทั้ง 78 ใบช่วงกลางปี 70 ของศตวรรษที่ 20 และได้ออกจำหน่ายในจำนวนจำกัด (น่าจะจำกัดมากๆ) ในปี 1984 ที่เรียกว่า a limited art edition ... ผมไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่าเป็นสำรับไพ่ หรือว่าเป็นชุดภาพ แต่ได้ชื่อว่าเป็น ไพ่ทาโรต์ชุดแรกที่สมบูรณ์ เป็นที่รู้จักกัน โดยศิลปินวาดภาพที่มีชื่อ 


บางท่านอาจจะสงสัยว่า แล้วไพ่ทาโรต์ Rider Waite Smith ที่สร้างโดย A.E. Waite และ Pamela ล่ะ ไม่ใช่ชุดแรกหรอกหรือ แถมสร้างมาก่อนตั้งหลายปี ตอนนั้น Dali ยังคลานอยู่เลยมั้ง ... ที่เขายกย่องไพ่ Dali Tarot Universal แบบนั้น น่าจะมาจากไพ่ชุดนี้สร้างโดย Dali คนเดียว ซึ่งเป็นผู้กำหนดรูปแบบของไพ่และวาดภาพเอง


ไพ่ Dali Tarot Universal ชุดนี้เป็นการพิมพ์ใหม่โดย Taschen เริ่มจำหน่ายเมื่อ 1 ตุลาคม 2014 ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งผมก็เฝ้ารอมานานเป็นปี ตั้งแต่ได้ข่าวว่าจะมีการพิมพ์ไพ่ชุดนี้ใหม่อีกครั้ง 

ก่อนหน้านี้มีการพิมพ์จำหน่าย เนื่องในโอกาสครบ 100 ปีของ Dali ชื่อชุดว่า The Salvador Dali Tarot Jubilee Edition น่าจะในช่วงปี 2003-2004 ผมก็ไม่ทราบแน่ชัด ซึ่งตอนนี้หายากแล้ว และราคาก็สูงมากๆ


Dali Tarot Universal

ถึงเวลามาดูกันแล้วครับว่า ทำไมกล่องไพ่ทำให้อึ้งไปได้ ดูจากภาพได้เลยครับ รีวิวคราวนี้น่าจะภาพเยอะหน่อย ... กล่องไพ่เป็นกล่องแข็ง ขนาดใหญ่กว่าหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คนิดนึง หนักน่าจะเกือบโลได้ ผิวกล่องมีลักษณะลายเหมือนผ้า สีน้ำตาล ตัวหนังสือคำว่า Dali Tarot Universal สีทอง (อันนี้ไม่ต้องบอก ก็คงจะเห็นมั้ง อิอิ) คำว่า Dali ตัวอักษรสวยมาก ชอบครับ ^^




บนกล่องมีรูปไพ่คลี่ออกมามาพอเห็น 4 ใบ ใบหน้าสุดเป็นไพ่ Queen of Cups สังเกตดีๆ ราชินีองค์นี้มีหนวดด้วย อืมม .. เพราะอะไรนั้น คงต้องลองหาอ่านในคู่มือแล้วล่ะ (เพราะยังไม่ได้อ่านเหมือนกัน อิอิ)

เปิดฝากล่องออกมาก็พบกว่า หนังสือคู่มือ เต็มแน่นกล่อง จะหยิบออกมาได้ต้องถ่างฝากล่องนิดหน่อย 






เมื่อหยิบหนังสือออกมาได้แล้ว คราวนี้ก็พบกับไพ่ในตำนานได้แล้วครับ สีทองอร่าม ในห่อพลาสติก กล่องด้านในมีฉีกขาดนิดหน่อยจากการขนส่ง คงต้องทำใจครับ (-_-') ขอแค่ไพ่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว




หนังสือคู่มือ

มาดูหนังสือคู่มือกันก่อนเลยนะครับ หน้าปกหนังสือจะเหมือนกับหน้ากล่อง คู่มือจะเป็นแบบ 3 ภาษาในเล่มเดียว มีภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน .. เปิดมาด้านในปุ๊บ ตกใจปั๊บ กับดวงตาอันใหญ่โตของ Dali อิอิ


เปิดหน้าต่อๆไป จะเห็นภาษาอังกฤษจะอยู่หน้าซ้ายมือเสมอ ทำให้อ่านง่าย 

ความหมายของไพ่แต่ละใบ จะเขียนไว้ 2 หน้า 3 ภาษาแบ่งเนื้อที่กันไป คู่มือเล่มนี้ถือว่าทำได้ดีมาก เพราะรูปไพ่เป็นภาพสี ทำให้ไม่ต้องไปหยิบไพ่มาดูประกอบให้ลำบาก รูปไพ่และความหมายภาษาอังกฤษจะอยู่หน้าเดียวกันทางซ้ายมือ

ความหมายจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรก คำอธิบายภาพ ที่จะบอกถึงสัญลักษณ์ต่างๆ และความหมาย
ส่วนที่ 2 เรียกว่า Practical Advice เป็นการบอกความหมายของการนำไปใช้งาน แต่ควรอ่านทั้งสองส่วนแล้วมารวมกัน จะเข้าใจความหมายของภาพนั้นมากยิ่งขึ้น




















ไพ่ Dali Tarot Universal

คราวนี้มาถึงส่วนสำคัญกันแล้วครับ แกะห่อพลาสติกออกได้เลย อิอิ

มาดูขนาดของไพ่กันก่อนดีกว่าครับ เพราะจะบอกว่ายาวกว่าไพ่ปกติ 1-2 เซนติเมตร ทำให้ใครมือเล็กสับไพ่ลำบากแน่นอน ต้องระวังให้ดีครับ ไพ่อาจจะร่วงได้ง่าย .. ในรูปผมเอาไพ่ Rider Waite Smith (หลังไพ่สีฟ้า) มาเทียบให้ดูกับไพ่ Dali (หลังไพ่สีทองขอบขาว)




ในชุดไพ่ จะมีไพ่แถมมา 2 ใบ บอกชื่อไพ่ และจำนวนของไพ่ที่มีทั้งหมด 78 ใบ แบ่งเป็นไพ่หลัก (Major) 22 ใบ และไพ่รอง (Minor) 56 ใบ ไพ่จะมีกรอบสีขาวโดยรอบ ใช้สีพื้นทองเป็นหลัก หลังไพ่เป็นรูปลายเซ็นคำว่า Dali ซ้ำๆ กัน



ขอพูดถึงไพ่หลักก่อนนะครับ ไพ่หลักทุกใบจะมีชื่อภาษาอังกฤษอยู่ด้านล่าง ด้านบนจะเป็นชื่อภาษาสเปน มุมบนซ้ายจะมีตัวอักษรฮิบรู ส่วนมุมบนขวาเป็นเลขลำดับของไพ่

สำหรับมุมล่างซ้ายจะเป็นเลขลำดับของไพ่เหมือนกัน ส่วนมุมล่างขวาจะเป็นสัญลักษณ์ดวงดาว หรือราศี ที่แทนไพ่ใบนั้น อย่างกรณีของไพ่ Magician ด้านบน จะเป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์ ภาพด้านล่างเป็นตัวอย่างของไพ่หลัก


มาถึงไพ่ชุดรอง จะแตกต่างนิดนึงตรงที่ว่า ไพ่หมายเลข 1 - 10 จะไม่มีชื่อไพ่ มีแต่ภาพอย่างเดียว ส่วนจะเป็นไพ่ไม้ ดาบ ถ้วย เหรียญ หมายเลขเท่าไหร่ ก็ต้องนับกันเอาเองครับ อิอิ

แต่ไพ่บุคคลจะมีชื่อภาษาอังกฤษ ให้ครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องตกใจไป ดูจากภาพตัวอย่างด้านล่างได้ครับ



ภาพทั้งหมดนี้ Dali ได้รับแนวคิดมาจากไพ่ก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นไพ่ Rider Waite Smith, Thoth หรือ Marseille และตัวเขาเองที่เป็นศิลปินนักวาดภาพ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปินรุ่นใหญ่ในยุค Renaissance .. Dali ได้นำเอาสัญลักษณ์ต่างๆ จากประวัติศาสตร์ตะวันตก การใช้สี สร้างไพ่ที่ต่างแตก เป็นหนึ่งเดียวนี้ออกมา นอกจากเป็นไพ่ทาโรต์ที่สวยงามชุดหนึ่งแล้ว ยังเป็นภาพศิลปะที่สวยงามที่สุดด้วยเหมือนกัน
ภาพจาก rozamira tarot's Gallery

ในไพ่แต่ละใบจะมีลายเซ็นของ Dali ไว้ในรูปแบบต่างๆ สัญลักษณ์ที่ถูกแทรกไว้ในไพ่หลายคือ ผีเสื้อ และ เงา ซึ่งเงา อาจะเป็นตัวแทนของวิญญาณ จิตวิญญาณ แรงขับเคลื่อน ซึ่งอาจจะดี หรือไม่ดีก็ได้

ผมมีไพ่ใบหนึ่งอยากจะให้ดูครับ ผมดูแล้วทึ่งทีเดียว กับจินตนาการของ Dali คนนี้ ไพ่ใบนั้นคือ The Moon ลองดูนะครับว่า คุณเห็นอะไร ในภาพนี้

พระจันทร์ กุ้ง อาจจะธรรมดา .. แต่คุณเห็นตึกไหมครับ ตึกสมัยใหม่ ผมก็ไม่แน่ใจว่า ช่วงที่ Dali มีชีวิตอยู่นั้น มีการสร้างตึกแบบนี้แล้วหรือยัง ไพ่ใบนี้ถือว่าเป็นไพ่ที่สวยใบหนึ่งทีเดียว และคนส่วนใหญ่ก็จะจำไพ่ใบนี้ของ Dali ได้


สำหรับใครที่ชอบภาพศิลปะ ไพ่ชุดนี้ไม่ควรพลาดแน่นอน และใครที่ชอบอ่านไพ่แบบออกไปทางจินตนาการ ความฝัน สัญลักษณ์ต่างๆ อารมณ์สี ชุดนี้ยิ่งไม่ควรพลาด ถึงแม้คุณจะไม่ใช่ทั้งสองแบบที่กล่าวมานั้น แต่เป็นนักสะสมไพ่ทาโรต์ จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ ต้องหาซื้อมาเก็บให้ได้ ด้วยระดับผลงานมาสเตอร์พีช ขนาดนี้ พร้อมกับแพ็คเกตที่สวยงาม ไม่ซื้อไม่ได้แล้ว




สุดท้าย กับการเปิดไพ่ถามเหมือนเดิมครับ ว่าผมกับไพ่ชุดนี้จะอย่างไรกันดี ราชาเหรียญหลับตาพริ้มเชียว



ท่านใดสนใจสามารถหาซื้อได้ที่เวป Amazon ตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลย ส่วนที่ร้านคิโนะคุนิยะ หรือ เอเซียบุ๊ค จะเอามาขายเมื่อไหร่นั้น ก็คงต้องรอกันไปครับ



วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557

เมื่อ Llewellyn ต้องการทำไพ่ RWS ในแบบของตัวเอง

ผมได้ไพ่ชุดนี้มาเมื่อสองสามวันก่อน และได้มีโอกาสหยิบมาใช้งานสองสามครั้ง (จะสองสามอีกนานไหม อิอิ) เพื่อตอบคำถามสองสามข้อ ^^

เอาจริงๆแหละ ... ผมลองหยิบมาตอบคำถามที่เกิดขึ้นนะช่วงนั้นพอดี เหตุผลหนึ่งเลยก็เพื่อจะได้เห็นภาพรวมๆ ของไพ่ชุดนี้เวลาใช้งาน จะได้เอามาเล่าให้ฟังกันได้

ไพ่ทาโรต์ชุดนี้ชื่อว่า Llewellyn's Classic Tarot สร้างโดย Barbara Moore และวาดภาพโดย Eugune Smith โดยสำนักพิมพ์ Llewellyn ที่ตรงกับชื่อไพ่เลย .. เป็นชื่อสำนักพิมพ์ที่สะกดผิดประจำ อิอิ

สาเหตุที่สร้างไพ่ทาโรต์ชุดนี้ขึ้นมา เนื่องจากทางสำนักพิมพ์ และคุณ Barbara Moore ต้องการที่จะทำไพ่ทาโรต์ RWS (Rider-Waite-Smith) ขึ้นมาใหม่ สำหรับศตวรรษนี้ เพื่อความทันสมัย โดยการเปลี่ยนรูปแบบในการนำเสนอ แต่ยังคงสัญลักษณ์สำคัญต่างๆ ไว้ จุดประสงค์ก็เพื่อให้นักอ่านไพ่สามารถสื่อสารกับไพ่ได้ง่ายขึ้น จากภาพและสีสรรนี้เอง

เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าไพ่ทาโรต์ Llewellyn's Classic Tarot นี้ หน้าตาเป็นยังไง เวลาไปหาซื้อจะได้หยิบมาถูกกล่อง ^^

สองภาพบนเป็นรูปหน้ากล่องและหลังกล่อง ตอนมาถึงบุบนิดหน่อย เพราะกระดาษกล่องไพ่ไม่ได้หนาอะไร ใครซื้อไพ่กล่องใหญ่ๆ น่าจะพอทราบ แต่สีกล่องสดใสมาก เห็นแล้วชอบเลยครับ ^^

ภาพหน้ากล่องเป็นรูปที่มาจากไพ่หลายใบ ใครพอจะเดาได้มั้งครับ ว่ามาจากไพ่ใบไหนบ้าง .. ถูกต้องคร้าบบบ เก่งมากเลย อิอิ ..

ลองมาไล่กันดูนะครับ จากซ้ายไปขวา เริ่มแรกเลย The Fool ต่อมาก็ Strength ถัดมาก็ 5 เหรียญ พอมองออกไหมครับ ติดกันก็ Temperance สุดท้ายก็ High Priestess ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ

ส่วนมือที่ชูออกมาด้านบนซ้ายขวา ก็ 1 ไม้ กับ 1 ดาบ ตามลำดับ

สำหรับด้านหลังกล่อง ก็จะพูดถึงไพ่ชุดนี้ พร้อมกับรูปไพ่ ซึ่งคงไม่ต้องบอกแล้วล่ะครับ มีชื่อบอกอยู่ทุกใบ

สำหรับภาพด้านล่าง เป็นสิ่งที่อยู่ในกล่องเมื่อเปิดออกมา ประกอบด้วยหนังสือคู่มือ และไพ่ห่อพลาสติก พร้อมกับกล่องสีขาวขนาดใหญ่กว่าไพ่มากกกก ที่ไม่รู้จะทำมาทำไม แทนที่จะทำให้พอดีใส่ไพ่ได้ เคยบ่นไปแล้วรอบหนึ่ง ขออีกรอบแล้วกันครับ อิอิ


หนังสือคู่มือ

มาดูหนังสือคู่มือกันก่อนดีกว่าครับ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าเอาความรู้สึกของผมเลย ก็ผิดหวังเล็กน้อย ปกติจะชอบหนังสือคู่มือที่เขียนโดยคุณ Barbara Moore มาก เพราะเธอจะเขียนอธิบายไพ่ และสอดแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยไว้เสมอ แต่อาจจะเป็นเพราะว่าไพ่ชุดนี้ต้องการให้เป็น RWS แต่ทันสมัยขึ้น และหลายๆคนที่ศึกษาไพ่ทาโรต์ ก็คุ้นเคยกับไพ่ชุด RWS อยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก .. คิดดีไว้ก่อนนะ อิอิ

สำหรับหนังสือคู่มือ แค่สีปกก็สวยแล้ว ผมว่าไพ่ชุดนี้เลือกโทนสีได้สวยดีครับ

หน้าปกมีรูปจากไพ่ต่างๆ อีกแล้ว มาลองทายกันสนุกๆ ครับ

...
...
...

เฉลยละครับ จากซ้ายไปขวาเหมือนเดิม ใบแรก Chariot ต่อมา Wheel of Fortune ปิดท้ายด้วย 2 เหรียญ

ส่วนด้านบนก็ 1 เหรียญ และ 1 ถ้วย ไม่ยากใช่ไหมครับ สำหรับปกหลัง คราวนี้ไม่มีชื่อไพ่แล้วนะครับ ดูออกไหม จากบนลงล่างก็ 2 ถ้วย , ราชาเหรียญ และ Hermit ที่ดูห้าวหาญมาก

ในหนังสือคู่มือจะบอกสาเหตุของการทำไพ่ชุดนี้ขึ้นมา ก็อย่างที่ได้บอกไปแล้ว พร้อมด้วยประวัติศาสตร์ไพ่ทาโรต์อีกนิดหน่อย และก็ต่อด้วยความหมายไพ่ชุดหลัก และชุดรอง จากรูปที่เปิดให้ดู ด้านหนึ่งเป็นรูปไพ่ อีกด้านหนึ่งจะเป็นความหมายไพ่ สั้นๆ ไม่ได้ยาวมาก .. แต่ทีน่าสนใจคือ การพูดถึงสัญลักษณ์ที่อยู่ในไพ่ และจุดเด่นของคุณ Barbara Moore คือเขียนด้วยภาษาที่อ่านและเข้าใจง่าย  .. เพราะฉะนั้นใครมีคู่มือไพ่ที่เขียนโดยคุณ Barbara Moore ยังไม่เคยหยิบมาอ่าน รีบไปค้นมาอ่านเลยครับ


ไพ่ทาโรต์ Llewellyn's Classic Tarot 


คราวนี้มาถึงตัวไพ่กันบ้างนะครับ เมื่อแกะห่อพลาสติกออกแล้ว ก็ถึงคราวลำบากของคุณแหละ ที่ต้องไปหาถุง หรือกล่องมาใส่ อิอิ ..

ไพ่มีทั้งหมด 78 ใบ ไม่มีไพ่แถม เมื่อดูไพ่ทีละใบจนหมด ความรู้สึกของผมตอนนั้นคือ ไพ่สดใสมาก สีของไพ่แต่ละใบ ให้ความรู้สึก สนุก ร่าเริง แน่นอนไพ่ที่ให้ความหมายด้านลบ อาจจะไม่ได้รู้สึกขนาดนั้น แต่ขอบอกว่าคุณจะไม่หดหู่ หรือทำให้เสียขวัญแน่นอน พูดง่ายๆ คือ ไพ่สื่อความหมาย ที่นุ่มนวล และทุกอย่างมีทางแก้เสมอ ขอแค่อย่าหมดหวัง

ลองดูรูปด้านบนนะครับ เป็นหน้าไพ่ The Fool และหลังไพ่ ที่มีดอกลิลลี่ สลับกับดอกกุหลาบ สวยดีครับ สังเกตไหม ว่าไพ่ชุดนี้ไม่มีขอบ ยกเว้นด้านล่างที่เขียนชุดไพ่ไว้ ใครที่ชอบไพ่ไร้ขอบ พลาดไม่ได้เลย

ผมว่าสุนัขของไพ่ The Fool ตัวนี้ฉลาดนะครับ คอยเรียกอยู่ด้านหลัง ถ้าเป็นไพ่ RWS ลองสังเกตดู คงจะตกหน้าผาไปพร้อมกันแน่ อิอิ



โครงสร้างไพ่ตามไพ่ RWS เพราะตั้งใจทำมาแบบนั้นอยู่แล้ว ลองมาดูตัวอย่างไพ่กันดีกว่า ว่าที่ผมบอกไปไม่ได้โม้

ไพ่ชุดนี้ให้สีที่ชัดเจนมาก สังเกตจากตัวอย่างไพ่ โดยเฉพาะกลางวัน กลางคืน ภาพให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง ผมรู้สึกแบบนั้นตอนดูไพ่จริงๆ คิดว่าแบบนี้สัญลักษณ์จะไม่ลดหายไปหรือ พยายามเล็งจนปวดตา กลายเป็นว่า สัญลักษณ์สำคัญต่างๆ ไม่ได้ขาดหายไปเลย แต่อาจจะมีเปลี่ยนแปลงบ้าง และบางจุดก็เสนอในแง่มุมใหม่ๆ ทำให้อ่านไพ่ได้ง่าย สนุก ขึ้นทีเดียว จริงๆ นะ ^^


ลองดูภาพทางขวานะครับ ผมลองเลือกไพ่ความหมายลบ มาให้ดู เพื่อดูบรรยากาศและอารมณ์ของไพ่ ในที่นี่ผมชอบไพ่ 10 ไม้ กับ 5 เหรียญมาก

มันไม่ได้ให้ความรู้สึกที่หนักหนาสาหัส เมื่อเทียบกับแบบเดิมที่แบกไม้จนหลังงอ 10 ไม้ใบนี่ยังเดินหลังตรงได้ แต่งานก็ยังเยอะอยู่ดี .. ส่วน 5 เหรียญ ให้ความหวังมากกว่าแบบเดิมเยอะที่เดียว 

ก็คงต้องแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนครับ

ข้อสังเกตอีกอย่างที่พบในไพ่ชุดนี้คือ ภาพบุคคลต่างๆ ในไพ่แต่ละใบ ส่วนใหญ่จะหันหาตรงมาทางผู้อ่านหรือดูไพ่ มีน้อยมากที่จะหันข้างให้ เหมือนต้องการให้เราเผชิญกับเหตุการณ์นั้นๆ ตรงๆ .. ก็ได้อารมณ์อีกแบบดีครับ

ขนาดไพ่ไม่ต่างจากขนาดของไพ่ทั่วไปครับ สับง่ายและคลี่ไพ่ได้สบาย ข้อนี้ไม่ต้องห่วง





สุดท้ายลองเปิดถามไพ่ดูว่า จะสามารถใช้ไพ่ชุดนี้ได้อย่างไร ใช้แล้วเป็นไงมั้ง หรือไพ่มีอะไรจะแนะนำไหม หลายคำถามไปไหมเนี่ย


ผมสะดุดกับไพ่ใบกลางก่อนเลยครับ ดำมืดมาเชียว สองข้างเขาสว่างกันแท้ๆ คงจะเป็นคำแนะนำที่ไพ่บอก อย่าให้คิดมากมายนัก ปล่อยความรู้สึกออกมา ให้เหมือนไม้ที่พุ่งเข้ามาหา รู้สึกปลอดโปร่งเหมือนบินอยู่ในอากาศ ให้ใช้ความรู้สึกภายใน หรือสิ่งที่จิตใต้สำนึกบอกมา .. นั่นแหละจะดีเอง ^^

ผมก็ภาวนาขอให้ใช้ไพ่ชุดนี้ได้อย่างรวดเร็ว เหมือนกับบทความบทนี้ที่เขียนได้อย่างรวดเร็ว รวดเดียวจบ!

วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2557

การอ่านด้วยไพ่ 3 ใบ ... ตอนที่ 5

Central Destination

รูปแบบต่อมาที่สามารถเกิดขึ้นได้สำหรับการอ่านไพ่ 3 ใบ คือ Central Destination ถ้าแปลจากคำก็หมายถึงไพ่ใบกลางจะเป็นปลายทาง ส่วนต้นทางจะมาจากไพ่ซ้ายขวา การกระทำหรือเหตุการณ์ใบซ้ายและใบขวา จะนำมาซึ่งเหตุการณ์ตรงกลาง


จากรูปไพ่ The Empress และ The Fool ล้วนหันหน้ามาทางไพ่ 2 ถ้วย รูปแบบนี้ไพ่ใบกลางจะหันหน้าตรงมาทางผู้ที่อ่านไพ่ ไม่ว่าจะก้มหรือเงยหน้าก็ตาม กรณีไพ่ 2 ถ้วย เราถือว่าตกในกรณีนี้ด้วย ถึงแม้ว่าผู้หญิงและผู้ชายจะหันหน้าไปคนละทาง แต่สองคนนี้หันหน้าเข้าหากัน

ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงหยิบได้ไพ่ 3 ใบนี้ มาผมจะเล่าให้ฟัง ...


หลังจากเขาประสบความสำเร็จในการเปิดตลาดต่างประเทศ รวมถึงการจัดการงานด้านบริหารต่างๆ ที่ดูยุ่งเหยิงค่อยๆลงตัวขึ้น หลังจากที่ได้แบ่งงานให้คนอื่นมารับผิดชอบตามความเหมาะสม เขามีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรการเดินทางไปๆมาๆ ก็ยังคงเป็นกิจกรรมหลัก แต่ก็สบายใจมากขึ้น เมื่อเทียบกับที่ผ่านมา 

จากการทำงานในช่วงที่่ผ่านมา เขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งทำงานอยู่ในบริษัท ที่เขาต้องติดต่อซื้อวัตถุดิบด้วย .. ครั้งแรกที่เขาได้พบกับผู้หญิงคนนี้ เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่เมื่อได้พบกันหลายครั้ง เขาเริ่มรู้สึกประทับใจในตัวเธอมากขึ้น ความจริงใจ และความเป็นตัวของตัวของเธอ ในช่วงที่ทำงานร่วมกัน

เมื่อมีเวลาว่างมากขึ้น ทำให้เขามีเวลาคิดถึงเรื่องนี้ เขาไม่รู้ว่าเธอจะรู้สึกกับเขาอย่างไร เพราะทุกครั้งที่พบกัน เธอแสดงน้ำใจไมตรีด้วยทุกครั้ง อาจจะเพราะเรื่องธุรกิจหรือเปล่า หรือเธอก็คิดเหมือนกับเขา เขาไม่อยากเข้าข้างตัวเอง แต่ถึงอย่างไรเขาก็อยากจะเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอ จากเพียงผู้ร่วมงาน ไปเป็นเพื่อนหญิง หลังจากนั้นเหรอ เขาไม่กล้าคิดขนาดนั้น

ตะกร้าหวาย ... ใช่แล้ว เขาจะลองไปปรึกษาดู

หลังจากที่เขาได้เล่าเรื่องราวที่กลุ้มใจทั้งหมดให้ฟัง เขาอยากจะทราบว่า เป็นไปได้ไหม ถ้าเขาอยากจะคบกับเธอคนนี้ ไพ่ที่เขาหยิบได้คือ The Empress, 2 ถ้วย, The Fool  แค่เห็นไพ่ มุมปากเขามีรอยยิ้มนิดๆ แต่ก็ยังไม่มั่นใจ รอฟังคำอธิบายด้วยหัวใจที่เต้นแทบจะหลุดออกมาข้างนอก


ผมว่าหลายคนเห็นไพ่ชุดนี้น่าจะพอบอกได้ว่า เขาคนนี้จะสมหวังหรือไม่ The Empress, The Fool แทบจะแทนตัวของผู้หญิงคนนั้น และผู้ชายคนนี้ ได้เลย ... The Empress ไพ่ที่แสดงถึงความสำเร็จ ความเป็นแม่ ความอุดมสมบูรณ์ ผู้หญิงที่มีอำนาจ ใจดี นุ่มนวล  ผู้หญิงคนนั้นจะมีลักษณะแบบนี้ไหม อาจจะใช่ และอาจจะไม่ใช่ เธออาจจะเก่ง เป็นคนโอบอ้อมอารี มีน้ำใจ แต่ก็ไม่จำเป็นว่าไพ่นี้จะหมายถึงตัวเธอทั้งหมด ไพ่จะบอกถึงสภาวะ ณ ขณะนั้น หรือช่วงเวลานั้น สิ่งไหนที่สำคัญ หรือเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่สนใจอยู่ The Empress อาจแสดงถึงความเป็นมิตร ของเธอก็ได้

สำหรับเขา ไพ่ The Fool การเริ่มต้น ความคิดสร้างสรร การเดินทาง เจ้าชู้ไหม ก็มีส่วนเพราะเห็นใครก็ชอบไปหมด แต่ก็ไม่คิดจะจริงจังกับใคร แล้วเขาคนนี้เป็นคนเจ้าชู้เหรอ จากที่ผ่านๆ บอกได้เลยว่าไม่แน่นอน เขาจริงจังกับชีวิต และนี่ก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาสนใจ แล้ว The Fool จะบอกอะไร ... อย่างที่บอกว่า ไพ่จะบอกถึงสภาวะช่วงเวลานึง ที่มีผลกับสิ่งที่สนใจ The Fool นี้อาจจะหมายถึง ช่วงนี้ที่เขาต้องเดินทางไปมาบ่อย ต้องติดต่ออะไรใหม่ๆ ตื่นเต้น และเขาก็สนุกกับมัน

ไพ่ 2 ถ้วย ชายหญิง เป็นเสมือนตัวแทนจากไพ่ The Empress, The Fool มาจับมือกัน ถือถ้วยเหมือนจะชนกัน มองหน้ากัน เป็นไพ่ของการรวมกัน ร่วมกัน จาก 2 เป็น 1 ถ้าถามเรื่องความรัก ก็บอกได้เลยว่าตกลงปลงใจแน่นอน ถ้าถามเรื่องงาน หุ้นส่วนร่วมมือด้วยดี หรืองานที่คุณทำอยู่เป็นสิ่งที่เหมาะกับคุณ สามารถทำได้ดี ... มาดูกันว่า ตะกร้าหวาย จะบอกชายคนนั้นอย่างไร


เขาเงยหน้าขึ้น ต้องการฟังคำตอบจากไพ่ชุดนี้ ... ไพ่ชุดนี้ดูรวมๆ คุณต้องสมหวังแน่นอน แต่ผมจะไม่บอกแบบนั้น ทุกอย่างอยู่ที่การกระทำ ปัจจุบันคุณรู้อยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร ส่วนอนาคต ยังมีความเป็นไปได้หลายทาง ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะทำอะไร คุณทำอย่างนึง ผลก็ออกมาอย่างนึง คุณทำอีกอย่างนึง ผลก็ออกมาอีกอย่างนึง 

สิ่งที่ผมจะบอกคุณไม่ใช่อนาคตคุณจะสมหวัง แต่จากสิ่งที่คุณทำมาทั้งหมด สิ่งที่คุณได้ทำให้กับเธอ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตอนนี้โอกาสได้เปิดให้คุณแล้ว เธอสนใจคุณแน่นอน แต่จะมากน้อยแค่ไหนนั้นอยู่ที่การกระทำของคุณ ให้คุณทำดีกับเธอต่อไป ให้เป็นตัวของคุณเอง ไม่จำเป็นต้องเสแสร้ง เธอชอบในแบบที่คุณเป็นอยู่ .. ที่ผมไม่บอกว่า คุณสมหวังแน่นอน ได้เธอเป็นแฟนแน่ เพราะถ้าผมบอกอย่างนั้น และคุณนอนใจ ละเลยจากสิ่งที่คุณได้ทำต่อเธอ อนาคตอาจจะเปลี่ยนไปได้ เพราะฉะนั้นอย่าได้ประมาท

แม้ชายคนนั้นต้องการฟังคำยืนยันจากปาก แต่สิ่งที่เขาได้ยินก็ช่วยยืนยันความรู้สึกของเขาแล้ว และก่อนที่เขาจะจากไป ยังหันกลับมาถามว่า เขาจะสมหวังใช่ไหม ไม่มีเสียงตอบใดๆ แต่เขาก็ยิ้มกว้าง เมื่อเห็นสัญลักษณ์รูปไลค์จากมือของ ตะกร้าหวาย


เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ บางคนอาจจะสงสัยว่า แล้วถ้าไพ่ใบกลางเป็นไพ่เสียล่ะ ถ้าไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ตามไพ่เสียนั้น คือเราไม่ต้องทำตามเหตุการณ์ หรือเลี่ยง ไม่ให้เกิดตามไพ่ซ้ายขวาเหรอ .. ขอบอกว่า ไม่ใช่นะครับ และมันจะเป็นรูปแบบที่เราจะพูดถึงในครั้งต่อไป

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การอ่านด้วยไพ่ 3 ใบ ... ตอนที่ 4

หลังจากออกไปตามไขปริศนากับ Holmes แล้ว เรามาต่อวิธีการอ่านไพ่แบบ 3 ใบ กันต่อดีกว่าครับ ตอนนี้อาจจะงงหน่อย ลองอ่านซ้ำหลายๆรอบดูนะครับ ถ้ายังงงอีก หลังจากบอกครบหมดทุกรูปแบบแล้ว ผมมีวิธีง่ายๆ ให้ สำหรับใครที่รู้สึกสับสน .. ผมก็คนนึงล่ะ

Central Origin 

สำหรับรูปแบบนี้ให้สังเกตไพ่ใบกลาง โดยภาพบุคคล หรือวัตถุจะหันหน้าตรงมองมาทางเรา จะก้มหรือจะหงายก็ได้ และไพ่ใบซ้ายและขวาจะห้นหน้าหนีจากไพ่ใบกลาง หรืออาจจะหันหน้าตรงมาทางเราได้อีกเหมือนกัน .. สรุปคือไม่หันเข้าหาใบกลาง


... หายไปหลายเดือน ชายคนเดิมก็ได้กลับมาหาอีก คราวนี้มาด้วยรอยยิ้ม ซึ่งต่างจากคราวที่แล้ว ที่คิ้วแทบจะชนกันเป็นเส้นเดียว เขาเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่เอาแผนการเปิดตลาดที่ประเทศเพื่อนบ้าน ไปเสนอหัวหน้า พร้อมกับอธิบายว่า ทำไมเราถึงไม่ควรลงไปแข่งกับคู่แข่ง พอหัวหน้าฟังจบ ก็สั่งให้เขาเดินหน้าทันที

ช่วงนั้นเขาต้องบินเป็นว่าเล่น เหนื่อยมากๆ แต่ถึงตอนนี้เขารู้สึกว่า มันคุ้มกับที่ได้ลงแรงไป จากปัญหาการผลิตสินค้าไม่ทันคราวก่อน ก็ได้ขยายโรงงานไปด้วยระหว่างที่เจรจาการค้าแต่ละประเทศ เมื่อได้รับยอดสั่งซื้อมา จึงสามารถส่งของได้ตามจำนวนได้อย่างสบายๆ

เขาบอกว่าที่มาหาคราวนี้ เพราะต้องการรู้ว่า มีอะไรที่เขาจะต้องทำ หรือมองข้ามไปหรือเปล่า เพราะบริษัทกำลังไปได้ด้วยดี ไม่อยากให้สะดุด ... ไพ่ 3 ใบที่เขาหยิบได้ มี 6 เหรียญ, Temperance, 8 เหรียญ




มีไพ่เหรียญตั้ง 2 ใบ ท่าทางจะไปได้ดีใช่ไหม เขาเอ่ยออกมา แต่ไพ่ใบกลางทำให้เขาลังเลไม่แน่ใจ

ไพ่ใบกลางเป็น Temperance จากรูปเทวดากำลังถ่ายเทของเหลวระหว่างถ้วย 2 ใบ หันหน้ามาทางเรา และไพ่อีก 2 ใบหันหน้าไปคนละทางกัน ใช่แล้วครับ ไพ่ชุดนี้ขึ้นรูปแบบ Central Origin ... ไพ่รูปแบบนี้จะบอกว่า ผลหรือการกระทำของไพ่ใบซ้ายและขวาจะเกิดขึ้นได้ เพราะไพ่ใบกลาง หรือบอกได้ว่า ไพ่ใบกลางเป็นเหตุ ส่วนไพ่ที่เหลืออีก 2 ใบเป็นผล ... มีผลย่อมมีเหตุ ไม่มีเหตุย่อมไม่มีผล ^^

ไพ่ 6 เหรียญ ผู้ชายหรือพ่อค้า ในที่นี้อาจจะหมายถึงชายคนที่มาขอคำปรึกษา กำลังถือตาชั่ง และมอบเงินส่วนนึงให้กับผู้ตกยาก บอกอะไรกับชายคนนี้ได้บ้าง ... เขาเปิดตลาดหลายประเทศ การตัดสินใจว่าจะลงทุนแต่ละประเทศมากน้อยแค่ไหน เป็นสิ่งที่เขาต้องหาข้อมูล และชั่งน้ำหนักเอาจากข้อมูลที่ศึกษามา เหมือนตาชั่งที่เขาถืออยู่ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว นอกจากนั้นแล้ว การให้ความช่วยเหลือคนในประเทศนั้น หรือที่หลายบริษัทชอบทำกัน การตอบแทนสังคม ก็เป็นสิ่งที่เขาควรจะใส่ไว้ในแผนด้วย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า ไม่ใช่ว่าจะไปกอบโกยอย่างเดียว

ไพ่ 8 เหรียญ ผู้ชายกำลังนั่งตอกเหรียญ ไพ่ใบนี้หมายถึงการทำงานซ้ำๆ งานประจำ หรือกำลังสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเอง ... การวางระบบให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาต่อไป เขาไม่ควรที่จะต้องไปคอยตรวจสอบงานทุกขั้นตอน ทำทุกอย่างให้เป็นระบบ เขาจะได้มีเวลาวางแผน หรือเอาเวลาไปทำสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า และระบบที่เขาสร้างขึ้นมานั้น จะเป็นตัวสร้างความมั่งคั่งให้ในที่สุด

เขายิ้มแทบไม่หุบ เมื่อได้ฟังดังนั้น แต่ก็ต้องหุบยิ้มทันที เมื่อได้ยินคำว่า "แต่" ... แต่ว่า นั่นหมายถึงคุณต้องทำเหตุให้เสร็จก่อน และเหตุที่ว่าก็คือ Temperance ... ไพ่ใบนี้หมายถึงการปรับสมดุล ถ้าร่างกายเสียสมดุล ย่อมทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ แต่สำหรับเขา การเปิดตลาดใหม่ ย่อมทำให้การทำงานต่างๆ ที่ผ่านมาเปลี่ยนไป แม้แต่การขยายโรงงาน จำนวนคนที่มากขึ้น ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น การบริหารงานต่างๆ ที่ต้องปรับเปลี่ยน เพราะคุณไม่สามารถใช้วิธีการบริหารงานสำหรับคน 100 คน มาบริหารคน 1,000 คนได้ เหมือนปรับสมดุลระหว่างถ้วย 2 ถ้วย เมื่อถ้วยใดถ้วยหนึ่งมากกว่าอีกถ้วย เราก็ต้องเทไปเทมาจนกว่า 2 ถ้วยนั้นจะมีปริมาณเท่ากัน

เขาได้ลากลับไปพร้อมก้บแผนการคร่าวๆ ในใจ


ครับ สำหรับรูปแบบนี้นั้น เราไม่จำเป็นต้องเลือกทั้งสองข้าง อาจจะเลือกข้างใดข้างหนึ่ง หรือเลือกทั้งสองข้าง หรือจะไม่เลือกเลยก็ได้ คงจะต้องขึ้นอยู่กับคำถาม และไพ่ที่ได้ ไม่สามารถระบุชี้ชัดลงไป เพราะสุดท้าย การติดสินใจก็อยู่ที่คนๆนั้น

วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พร้อมที่จะตามหาคนร้าย กับ Sherlock Holmes หรือยัง

หลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อ Sherlock Holmes นักสืบอัจฉริยะ สัญชาติอังกฤษ ผู้ที่สืบหาร่องรอยผู้ร้ายจากจิ๊กซอเล็กๆ และขยายผลไปจนพบสาเหตุกระทำผิดได้ในที่สุด เป็นตัวละครที่ Arthur Conan Doyle ได้สร้างขึ้นมาในโลกนิยายได้เสมือนจริง จนบางคนคิดว่า Sherlock Holmes มีตัวตนจริงๆ

Sherlock Holmes กำเนิดในปี 1887 ในนิยายเรื่องแรกที่ชื่อว่า A Study in Scarlet หรือในบ้านเราได้มีการแปลออกมาในชื่อเรื่อง แรงพยาบาท และเป็นการพบกันของคู่หูที่เก่งไม่แพ้กัน Dr. Watson

หลังจากได้รับไพ่ชุดนี้มา แกะกล่องออกดู เปิดคู่มือไปได้สักพัก จากนั้นก็เก็บทุกอย่างไว้อย่างเดิม เมื่อตอนที่ได้รับมา นอกจากพลาสติกหุ้มกล่องเท่านั้น ที่ไม่สามารถทำให้เหมือนเดิมได้ ...  ไพ่แต่ละใบแสดงถึงตัวละครในนิยายเรื่องสั้นหลายตอนของ Sherlock Holmes เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการสืบคดี และผมไม่รู้จักตัวละครคนไหนเลย นอกจาก Holmes กับ Watson เนื้อเรื่องเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ นอกจากหนังที่เคยไปดูในโรง เมื่อนานมาแล้ว

สองสามวันต่อมา ผมไปหาซื้อหนัง Sherlock Holmes ที่ทำออกมา 2 ภาค และมาเปิดดูใหม่ ผมเข้าใจคู่มือมากขึ้น รวมถึงไพ่บางใบ แต่ก็ไม่ทั้งหมด ถามว่า ถ้าไม่รู้เรื่อง Sherlock Holmes มาก่อน ไม่เคยดูหนังเกี่ยวกับเรื่อง Sherlock Holmes มาก่อน ไม่เคยอ่านนิยายเรื่อง Sherlock Holmes มาก่อน จะไม่สามารถใช้ไพ่ชุดนี้ได้เหรอ .. คำตอบคือ ใช้ได้ครับ เพียงแค่คุณศึกษาคู่มือ ซึ่งจะอธิบายไพ่แต่ละใบและการแปลความหมาย คุณก็สามารถนำไปทำนายได้ปกติ ... แต่ถ้าคุณขี้สงสัยนิดนึง คุณจะรู้สึกค้างคา ตัวละครแต่ละตัวเกี่ยวข้องกันยังไง ทำไมต้องมีเหตุการณ์นี้ แล้วมันเริ่มต้นจากสาเหตุไหน .. คุณจะรู้สึกว่า มันไม่เต็ม (เป็นคำที่ได้มาตอนไปเข้ากลุ่มเรียนไพ่เมื่อวันเสาร์ ฮา) มันขาด

ก่อนจะไปไกล มาดูกันดีกว่าครับว่าไพ่ชุดนี้น่าสนใจ พอที่จะซื้อมาใช้หรือไม่


The Sherlock Holmes Tarot : Wisdom from the First Consulting Detective

แค่คำชื่อก็น่าสนใจแล้ว ถ้าจะได้ที่ปรึกษาเป็นนักสืบฉลาดๆ มาช่วยไขปัญหาต่างๆ ของเราและคนอื่น ไพ่ชุดนี้ถูกสร้างโดย John Matthews และ Wil Kinghan โดยหยิบเรื่องราวของ Sherlock Holmes นิยายชื่อดังของ Arthur Conan Doyle (ไม่แน่ใจว่าชื่อ Conan โคนัน การ์ตูนนักสืบยอดฮิต ยืมชื่อมาจากคนนี้หรือเปล่าน้าา ใครทราบก็มาบอกกันบ้างนะครับ) ยอดนักสืบอัจฉริยะกับคู่หู Dr. Watson ที่ช่วยไขคดีสำคัญต่างๆ ที่ตำรวจไม่สามารถทำได้

ไพ่ชุดนี้มาในกล่องกระดาษแข็งแรง ขนาด 8x6 นิ้วโดยประมาณ หน้ากล่องเป็นรูปของ Sherlock Holmes  ส่วนด้านหลังกล่องเป็นคำโปรยสั้นถึงที่มาของไพ่ชุดนี้ และคำโน้มน้าวให้คุณควรมีไว้เป็นเจ้าของ ^^ ที่สำคัญ Printed in China มิน่าล่ะ (ติดไว้ก่อน เดี๋ยวมาบอก)

คู่มือไพ่

ในกล่องประกอบไปด้วยหนังสือคู่มือ 160 หน้าที่บอกถึงที่มาของไพ่ ประวัติคร่าวๆ ของ Arthur Conan Doyle ในหนังสือได้บอกถึงสาเหตุที่ Sherlock Holmes เสมือนมีตัวตนจริงๆ เนื่องจากผู้แต่งได้หยิบบุคคลิกของ อ. ที่เขานับถือ Dr. Joseph Bell มานั้นเอง ... ในหนังสือจะอธิบายไพ่แต่ละใบชัดเจน สำหรับไพ่หลักจะใช้ 2 หน้า ส่วนไพ่รองจะใช้ 1 หน้า คำอธิบายจะแบ่งเป็น 
  • ส่วนของคำบรรยายหน้าไพ่ ตัวละคนในภาพ และเหตุการณ์นั้น 
  • ต่อมาส่วนของ The Game ที่จะบอกถึงคำแปลไพ่ปกติ 
  • และส่วน The Fog จะเป็นความหมายหัวกลับ (reverse)
  • ที่น่าสนใจก็คือประโยคในแว่นขยาย Holmesian Wisdom เป็นประโยคเด็ดของ Holmes ที่เดียว
จากคู่มือ ก็จะเป็นไพ่ที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 กอง ด้านหลังไพ่จะเป็นสีทอง มีตัวอักษร 221B ถ้าเป็นแฟน Sherlock Holmes คงจะเข้าใจความหมายของตัวเลขชุดนี้ดี ส่วนใครที่ไม่ทราบ บอกไว้ก่อนเลยว่าไม่ได้ใบ้เลขงวดไหน เลข 221B นี้เป็นเลขที่ห้องของ Holmes ที่เขาอาศัยอยู่

เมื่อได้สัมผัสกับกระดาษ ความรู้สึกของไพ่ชุดอื่นๆ ที่มาจากสำนักพิมพ์ Connection กลับมาเลยครับ ไพ่ทำออกมาสวย แต่ไม่ลื่น คลี่แล้วติดเป็นก้อน ให้ได้อย่างนี้ทุกครั้งไปสินะ ที่บอกว่าติดไว้ก่อน ก็เรื่องกระดาษนี่แหละครับ .. ไม่รู้ว่ามีใครได้บอกปัญหานี้ให้ทางสำนักพิมพ์ทราบบ้างไหม .. ผมว่า หลายคนอาจจะตัดสินใจไม่ซื้อไพ่ของสำนักพิมพ์นี้ เพราะสาเหตุเรื่องกระดาษนี้แหละ ทั้งๆที่อยากได้มาก ... หวังว่าถ้าใช้บ่อยๆ แล้วจะดีขึ้นนะครับ ตอนนี้ก้อใช้คลี่บนมือไปพลางๆ ก่อน -_-"

ไพ่

ไพ่ Sherlock Holmes มี 78 ใบ โครงสร้างตาม Rider Waite แบ่งเป็นไพ่หลัก 22 ใบ และไพ่รอง 56 ใบ โดยไพ่รองแบ่งออกเป็น 4 ชุด ซึ่งมีชื่อเรียกใหม่ดังนี้
  1. Observation (Swords) สัญลักษณ์รูปตา
  2. Evidence (Wands) สัญลักษณ์รูปรอยรองเท้า
  3. Analysis (Cups) สัญลักษณ์รูปแว่นขยาย
  4. Deduction (Pentacles) สัญลักษณ์รูปเครื่องหมายคำถาม
Minor cards
และไพ่ใบที่ 79 : The Giant Rat of Sumatra มีมาทำไม ?
ที่มาของไพ่ใบนี้มาจากตอน The Sussex Vampire ในรายงานที่เขียนโดย Dr. Watson .. ผมก็ยังไม่เคยอ่านนะ แต่คงมีอะไรเกี่ยวข้องกับหนูยักษ์แน่ๆ ว่าไหม ^^ ... แล้วจะใช้ไพ่นี้ยังไง ในคู่มือบอกไว้หลายวิธี หนึ่งในนั้นคือเอาไว้วางแทนตัวคนมาถาม หรือหัวข้อที่ตาม หนูเนี่ยนะ อืมมม แต่ผมคงไม่ใช้ล่ะ


นอกจากชื่อชุดไพ่รองจะเปลี่ยนไปแล้ว ชื่อของไพ่ชุดหลักก็เปลี่ยนหมดทุกใบ เพื่อให้เข้ากับเนื้อเรื่อง อย่าง 
  • The Fool เปลี่ยนเป็น Inspector Lestrade นักสืบของกรมตำรวจ
  • The Magician เปลี่ยนเป็น The Great Detective ยอดนักสืบคนเก่งของเรา Holmes
  • The Lovers ก็เป็น Mr & Mrs J.H. Watson
และที่ผมจำได้อย่างดี เพราะพึ่งดูหนัง Sherlock Holmes ตอน Game of Shadow ศัตรูอันร้ายกาจ ที่เก่งไม่แพ้ Holmes จน Holmes ต้องตัดสินใจเสี่ยงตายกระโดดหน้าผาไปพร้อมกับศัตรูคนนี้ เพื่อที่กำจัดเขาให้ได้
  • The Devil ศัตรูอันร้ายกาจ Professor Moriarty
Major cards

ส่วนตัวเห็นว่าไพ่ชุดนี้น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบนิยายเรื่อง Sherlock Holmes ยิ่งไม่น่าพลาด ... ผมอยากอ่านนิยายเรื่องนี้มานานมาก แต่ก็ไม่เคยซื้อมาอ่านสักที ได้แต่หยิบๆ มองๆ และก็ผ่านไป ด้วยอคติที่ว่า น่าจะมีนิยายสนุกๆ ลึกลับ แต่ไม่ต้องมีการฆาตกรรมจะมีบ้างไหม ตอนที่ได้ดูหนังโรงก็สนุกตื่นเต้นไม่น้อย ... พอมาครั้งนี้ เมื่อเงื่อนไขครบ ก็ยกมาทั้งชุดเลย ^^


ติดรูป Giant Rat มา
ก่อนจะจบ ... มาถึงตัวอย่างการเปิดไพ่ ซึ่งได้เปิดถามไพ่ชุดนี้ว่า ผมจะเรียนรู้ไพ่ชุดนี้อย่างไร เพื่อที่จะสามารถนำไปทำนาย ไขปัญหา ให้คำแนะนำ หรือคำตอบคำถามได้ ... ผมหยิบไพ่มา 3 ใบ ได้ไพ่ 
  1. Baker Street Irregular
  2. Ace Analysys
  3. The Seven-Per-Cent Solution
ใช้หลักการอ่านไพ่ 3 ใบ นะครับ จากรูป เป็นแบบ Linear โดยอ่านจากขวาไปซ้าย สังเกตจากทิศทางการหันของตัวละครในรูป

เห็นหน้าไพ่แล้วรู้สึกว่า เหมือนไพ่จะรู้เลยว่าผมซื้อหนังสือมา ^^ ... The Seven-Per-Cent Solution หรือไพ่ Hierophant ในรูปแสดงภาพ Holmes หลังจากที่เสพโคเคน เป็นช่วงที่เขาจะปล่อยตัวเอง แต่ก็เป็นช่วงที่เขาเปิดการรับรู้ของตัวเอง ให้ลงลึกไปในภายใน เหมือนบอกให้ผมทำในสิ่งที่อยากทำ คืออ่านนิยายเรื่องนี้ซะ หรือแม้แต่หนังที่ซื้อมา ให้เข้าถึงเนื้อเรื่องต่างๆ

จากนั้นไพ่ใบที่ 2 Holmes นั่งอยู่ท่ามกลางแผ่นกระดาษ ซึ่งเป็นข้อมูลต่างๆ ที่เขาได้รวบรวมมา จากชิ้นส่วนต่างๆเหล่านั้น ก็จะนำมาปะติดปะต่อเป็นเรื่องราว ให้กระจ่างขึ้น ก็คงบอกถึงหนังสือ หรือหนังที่ผมซื้อมา ก็เหมือนกับกระดาษเหล่านั้น

และไพ่ใบสุดท้าย Holmes จะใช้เวลาในการไขปริศนาต่างๆ นานกว่าที่ควรจะเป็น ถ้าเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือจาก เด็กเกข้างถนน ที่ช่วยเขารวบรวมข่าวสาร ที่เขาไม่สามารถหาเองได้ .. ใช่แล้วครับ สุดท้ายก็จะได้รับข้อความ หรือจิ๊กซอตัวสุดท้าย ที่จะมาต่อกับเรื่องราวทั้งหมด เปิดเผยปริศนาออกมา 

ตัวอย่างเปิดไพ่ถาม 3 ใบ

แต่ถึงกระนั้น ... The Game is afoot !


วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การอ่านด้วยไพ่ 3 ใบ ... ตอนที่ 3

เพื่อไม่ให้เสียเวลา มาต่อในรูปแบบที่ 2 กันต่อเลยครับ

Choice

ทำไมถึงเรียกว่า choice กรณีนี้บ่งบอกถึงตัวเลือกที่ไพ่จะแสดงออกมาให้คุณเห็น แต่ว่าไม่ใช่ให้คุณเลือกนะ ไพ่ได้เลือกให้คุณแล้ว ลองมาดูกันดีกว่าว่าไพ่จะตอบคำถามอย่างไร .. จำชายคนที่แล้วได้ไหมครับ ที่มาให้ช่วยดูไพ่เมื่อตอนที่แล้ว ที่ต้องไปนำเสนองานให้กับหัวหน้า ปรากฎว่าหัวหน้าเห็นดีเห็นงามด้วย จึงอนุมัติให้ผลิตสินค้าที่ได้นำเสนอออกขายได้เลย ช่วง 3 เดือนแรก สินค้าขายดีมาก ติดตลาดอย่างรวดเร็ว มียอดจองมากเกินกำลังผลิตให้พอกับตลาด ช่องว่างนี้เองที่ทำให้คู่แข่งแทรกเข้ามาในตลาด เมื่อผ่านไปอีก 3 เดือน ยอดจองสินค้าลดลง พร้อมกับคู่แข่งค่อยๆ แย่งชิงส่วนแบ่งตลาดไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าคุณภาพสินค้าของคู่แข่งจะสู้ของชายคนนี้ไม่ได้ แต่ด้วยราคาที่คู่แข่งตั้งไว้ถูกกว่านิดหน่อย แต่ก็มีผลกับการจัดสินใจซื้อของลูกค้าบางกลุ่ม

ตอนแรกเขาคิดจะลงไปแข่งเรื่องราคาด้วย แต่หัวหน้าได้ปรามไว้ และให้เขากลับไปคิดให้ดีก่อนว่าจะคุ้มหรือเปล่า เขาหาข้อมูลต้นทุนของตัวเอง และก็คู่แข่ง เมื่อพิจารณาดูแล้วค่อนข้างจะเสี่ยงเหมือนกัน ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดี จึงแบกความกลุ้มใจมาขอให้ช่วยดูหน่อยว่า จะทำอย่างไรกับกรณีนี้ดี



ไพ่ที่เปิดได้มี The World, 2 Wands, Page of Swords

มาค่อยไล่ดูกันครับว่า ทำไมไพ่ชุดนี้ถึงเรียกว่า choice ... อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ไพ่ใบกลางจะเป็นจุดสำคัญที่ใช้ในการพิจารณารูปแบบที่จะเกิดขึ้น  กรณีนี้ไพ่ใบกลางเป็นไพ่ 2 ไม้ หันหน้าไปทางซ้าย พร้อมกันนั้นก็หันหลังให้กับ เด็กดาบ ถึงแม้ว่าจะหันหน้ามาทางซ้าย แต่ตัวของเด็กหันไปทางขวาแล้ว

การที่หันหลังชนกัน ถือเป็นการปฎิเสธทางเลือกนั้น และไปเลือกอีกข้างที่หันไปหา .. สำหรับไพ่ 2 ไม้ ไม้ที่แสดงถึงงาน ความปรารถนา แรงกระตุ้น ผู้ชายที่ยืนบนกำแพงเมือง ด้านหลังมีไม้อันหนึ่งที่ติดอยู่กับกำแพง บางคนอาจจะแปลว่า มีคนคอยสนับสนุน หรืออาจจะแปลได้ว่า ผู้ชายคนนี้ได้ทำงานงานนึงสำเร็จเรียบร้อยไปแล้ว ในมือข้างหนึ่งถือไม้ และข้างถือลูกโลก สายตามองผ่านตัวเมือง ผืนดิน ไกลออกไปยังทะเล นั้นหมายถึงเขากำลังมองหาสิ่งใหม่ คิดที่จะเริ่มงานใหม่ ไม่รอชื่นชอบกับงานที่สำเร็จไปแล้ว พร้อมที่จะออกผจญภัยอีกครั้ง แม้ว่าหนทางข้างหน้าจะล้มเหลว หรือสำเร็จก็ตาม

ส่วนที่เขาหันหลังให้ เด็กดาบ ที่ยกดาบถือเตรียมพร้อมที่จะตอบโต้กลับ ส่วนไพ่ The World ปกติแล้วจะหมายถึงความสำเร็จเป้าหมายในเรื่องของจิตใจ หรือจิตวิญญาณ เป้าหมายอะไรก็แล้วแต่ที่เมื่อสำเร็จแล้ว สามารถช่วยยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้น หรือถ้าจะมองในเรื่องทางโลก ก็แสดงถึงความสำเร็จของเป้าหมายที่ได้วางไว้

มาตอบคำถามให้กับชายคนนี้กันดีกว่าครับ .. ไพ่ได้แนะนำให้ชายคนนี้ อย่าได้ลงไปแข่งราคากับคู่แข่ง แต่ให้มองไปที่เป้าหมายใหม่ อย่ายึดติดกับความสำเร็จเดิม มองให้ไกลไปอีก ใช่แล้วครับ ไพ่บอกว่า ให้ลองไปเปิดตลาดใหม่ หรือตลาดต่างประเทศดูสิ ถึงแม้จะเสี่ยง แต่ก็คุ้ม และโอกาสที่จะสำเร็จก็มีสูงด้วย

ชายคนนั้นเอ๊ะใจทันที .. ใช่แล้วเขาลืมไปได้อย่างไร ตอนนี้เขามัวแต่ดีใจกับความสำเร็จในขั้นต้น จึงลืมเป้าหมายเดิมที่วางไว้ ในแผนการที่นำเสนอหัวหน้า เป้าหมายระยะกลางเขาก็มีความคิดจะมุ่งสู่ตลาดเพื่อนบ้านอยู่ เพียงแต่ว่าต้องทำเร็วขึ้นเท่านั้นเอง เขาจะลองเอาไปคุยกับหัวหน้าดูอีกที

มาพิจารณาไพ่ The World กันอีกนิดครับ อาจจะมีคนเอ๊ะใจว่า ไพ่ใบนี้ต้องหันหน้าไปทางไหน สำหรับใบนี้จะเห็นว่า หันตัวไปทางขวา ซึ่งหันไปหาไพ่ใบที่สอง สมมติว่าเป็นไพ่ใบอื่นที่ไม่ใช่ The World แต่เป็นไพ่ที่หันหน้าตรงมองมาทางคนอ่านไพ่ เช่น King of Sword หรือ หันไปทางเดียวกับไพ่ 2 ไม้ เช่น The Fool ก็จะถือว่าเป็นรูปแบบ choice เหมือนกัน เพราะหลักสำคัญของรูปแบบนี้อยู่ที่ไพ่ใบกลางหันหลังชนกับหลังของไพ่ใบซ้ายหรือขวา ตัวเลือกที่จะถูกเลือก หรือคำแนะนำของไพ่ ก็จะเป็นทิศทางที่หันไปของใบกลาง ไม่งงกันนะครับ ใครงงลองอ่านซ้ำอีกหลายเที่ยวครับ ^^

เป็นยังไงบ้างครับ พอจะเห็นภาพชัดขึ้นอีกหรือยัง .. ไว้มาต่อรูปแบบต่อไปครั้งหน้านะครับ ^^


วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การอ่านด้วยไพ่ 3 ใบ ... ตอนที่ 2


ตอนแรกได้อธิบายเบื้องต้นไปแล้ว เกี่ยวกับการอ่านไพ่ 3 ใบ ตอนนี้เราจะมาพูดถึงรูปแบบที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการเปิดไพ่ 3 ใบ ซึ่งได้ทิ้งท้ายไว้ว่า มีรูปแบบที่เกิดขึ้นได้ 7 รูปแบบจากการสังเกตของ Robert M Place ในตอนนี้เราจะมาพูดถึงรูปแบบแรกกันครับ

Linear

การอ่านไพ่รูปแบบนี้จะอ่านเรียงจากซ้ายไปขวา หรือจากขวามาซ้าย โดยสังเกตจากทิศทางของบุคคลหรือวัตถุบนหน้าไพ่ เราจะเห็นพลังงานหรือการเปลี่ยนแปลงไปในลักษณะดำเนินไปจากไพ่ใบแรก ไปไพ่ใบที่สอง และจบด้วยไพ่ใบที่สาม สำหรับไพ่ใบที่สามนั้น อาจจะไม่ได้หันหน้าไปทางเดียวกับ 2 ใบแรก โดยหันหน้ามาตรงๆ เหมือนจ้องมองดูเราก็ได้เหมือนกัน .. มาดูตัวอย่างกันดีกว่าจะได้เข้าใจมากขึ้น ซึ่งเป็นตัวอย่างจากหนังสือ


ผมอาจจะอธิบายไม่เหมือนกับในหนังสือ เพราะต้องการแยกประเด็นในการพิจารณา และการอ่านไพ่ ตามลำดับความคิดของผมว่า น่าจะเข้าใจง่ายกว่า .. คิดว่านะ ^^

เริ่มจากคำถามก่อนที่ว่า ชายคนหนึ่งต้องไปนำเสนองานให้กับหัวหน้า จึงอยากทราบว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร .. ไพ่ที่หยิบได้มี 9 ดาบ, เด็กดาบ และ 1 ดาบ .. แค่เห็นใบแรกก็รู้แหละว่าเจ้าตัวตอนนี้รู้สึกอย่างไร

เริ่มจากพิจารณาทิศทางของไพ่ก่อนว่าเข้ารูปแบบไหนใน 7 รูปแบบ แน่นอนว่าต้องรูปแบบแรกแน่นอน เพราะยกตัวอย่างในรูปแบบแรกนี่น่า 555 .. การหาทิศทางของไพ่ง่ายมาก เริ่มจากไพ่ใบที่ 1 มีคนนั่งบนเตียงซบกับมือ หน้าหันไปทางขวา ดาบทั้ง 9 เล่ม ปลายดาบก็ชี้ไปทางขวา ต่อมาไพ่ใบที่ 2 แม้จะเห็นว่าเด็กในรูปหันหน้าไปทางซ้าย แต่ให้สังเกตตัวของเด็กที่หันไปทางขวา และมีแนวโน้มว่าจะก้าวไปทางนั้น และไพ่ใบสุดท้าย 1 ดาบ มือที่โผล่มาจากทางซ้าย ยื่นไปทางขวา ซึ่งจะเห็นว่าทั้ง 3 ใบ บุคคลและวัตถุหันไปทางเดียวกัน คือทางขวา

ที่นี้มาลองอ่านไพ่กัน ดูว่าสามารถตอบคำถามใหักับชายผู้น่าสงสารได้หรือไม่ เริ่มจากใบแรก ที่แสดงถึงความเครียด และความกลัว ซึ่งไพ่ดาบเป็นเรื่องของความคิดอยู่แล้ว สิ่งที่เขากลัวคือเหตุการณ์ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งก็คือการที่ต้องนำเสนองานให้กับหัวหน้า .. ใบที่สอง เด็กดาบ ซึ่งอาจจะเหมือนถึงผู้ชายคนนั้น (เป็นไพ่ที่ไม่อยู่นิ่ง ต้องมีการกระทำออกมา) ที่จะต้องแสดงความมั่นใจไว้ แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางลมแรงหรือก็คือสภาวะที่ไม่อำนวย เป็นอุปสรรค ดูจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็ก ต้นไม้ เส้นผม แต่เมฆอาจจะไม่ชัดเจนนัก ลักษณะดาบที่ชี้ขึ้นหมายถึงความคิดทางบวก ที่เจ้าตัวมองไปในทางที่ดี แต่กระนั้นก็ยังกังวล กลัวอยู่ จากการที่หันหน้าไปยังไพ่ใบแรก แต่ก็ต้องเก็บไว้ในใจ .. ใบที่ 3 แสดงถึงความสำเร็จในการนำเสนองานในครั้งนี้ ซึ่งเป็นไอเดียใหม่ ที่หัวหน้าชอบ .. ถึงแม้จะกังวล แต่ก็จบลงด้วยดี

ประเด็นที่น่าสนใจในการอ่านไพ่คือ การสังเกตความสัมพันธ์ระหว่างไพ่แต่ละใบ ให้สังเกตสัญลักษณ์ในไพ่สอดคล้องกับไพ่ใบอื่นหรือไม่ อย่างกรณีนี้ไพ่ทุกใบเป็นดาบหมด ซึ่งดาบแทนเรื่องของความคิดเป็นหลัก แต่ถ้าใครมาสาย อ. ขุนทอง ดาบก็คืออุปสรรค เจอไพ่ดาบ แสดงว่าไม่ง่ายแล้ว ต้องออกแรงฟันฝ่า

ดาบในไพ่ใบที่ 3 ที่ยื่นออกมาจากเมฆ เป็นดาบเล่มเดียวกับที่เด็กถืออยู่หรือไม่ ตรงนี้ก็สามารถเอามาเชื่อมกันได้ หรือแม้แต่ทิศทางของดาบ ใบแรกดาบวางขวาง อาจจะไม่ดีไม่ร้าย แต่ดาบก็ไม่ดีอยู่ดี ส่วนไพ่ 2 ใบหลัง ดาบชี้ขึ้น แสดงถึงทิศทางบวก มีความหวังแน่นอน แต่ต้องพยายาม

ทำไมทิศทางดาบถึงบอกดีร้ายได้ ลองมาดูตัวอย่างที่ 2 ดีกว่าครับ สมมติว่าชายคนนั้นแทนที่จะหยิบได้ไพ่ 1 ดาบ แต่กลายเป็น 3 ดาบแทน ผลจะเป็นไง



ให้สังเกตไพ่ 3 ดาบนะครับ ปลายดาบชี้ลงแสดงถึงทิศทางลบ ไพ่ 3 ดาบมีความหมายเสียใจ ผิดหวัง แน่นอนเปิดได้ไพ่แบบนี้ ถึงแม้พยายามยังไง แต่จบไม่สวยแน่ ส่วนจะน้ำตาตกเหมือนสายฝนไหม ก็แล้วแต่คนนะ อิอิ .. สำหรับใครที่อ่านไพ่คนอื่นอยู่ เจอแบบนี้แล้วอย่าเพิ่งหยุด หรือจบแค่คำถามนี้นะครับ คุณควรจะเป็นที่ปรึกษาที่ดี พร้อมให้คำแนะนำที่จะช่วยแก้ไขให้กับเขาด้วย อาจจะด้วยการถามต่อว่า ถ้าเป็บแบบนี้แล้ว เขาควรจะทำอย่างไร เพื่อให้การเสนองานครั้งนี้สำเร็จด้วยดี .. หยิบต่อเลยครับ อีก 3 ใบ ^^

สงสัยจะได้ตอนละรูปแบบแล้วมั้งเนี่ย ในหนังสือก็สั้นนิดเดียวนะ แต่ทำไมเขียนออกมาได้ยาวขนาดนี้ ไว้เจอกันตอนหน้านะครับ

ปล. ผมขอให้คำแนะนำสำหรับการอ่านไพ่ 3 ใบไว้ล่วงหน้าเลยดีกว่าครับ เผื่อใครอยากจะลองเอาไปใช้งานดูก่อน .. ทั้ง 7 รูปแบบนั้น ถ้าเปิดไพ่ออกมาแล้ว ไม่แน่ใจว่ามันไปอยู่ในรูปแบบไหน สามารถอ่านเป็นรูปแบบ Linear ได้เลย คือให้อ่านเป็นเหตุการณ์ไล่จากไพ่ใบแรก ใบที่สอง และใบที่สาม ได้เลย ซึ่งอาจจะมีหลายคนอ่านแบบนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นใครจะยึดอ่านแบบนี้แบบเดียวก็ไม่ผิดครับ

วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Art of Life : เมื่อชีวิตต้องออกแบบเอง

ความรู้สึกของ Charlene Livingstone ตอนนี้เหมือนกับเดินๆอยู่ แล้วเสียหลักล้มลง เมื่อทราบว่าสามีเริ่มมีอาการอัลไซเมอร์ 

Charlene Livingstone รับอ่านไพ่ทาโรต์ให้คนอื่นเป็นงานอดิเรก เสมือนสิ่งบังเทิงอย่างนึงยามว่าง เธอไม่ค่อยรู้ด้วยซ้ำไปว่า ไพ่แต่ละใบหมายความว่าอย่างไร ประวัติศาสตร์ของไพ่ทาโรต์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

แต่เมื่อจุดเปลี่ยนมาถึง .. ตอนที่เธอได้ทราบว่าสามีของเธอมีอาการอัลไซเมอร์ เธอพบว่าตัวเองหันมาเปิดไพ่มากขึ้น ศึกษาความหมายของไพ่อย่างจริงจัง จากที่เคยไม่สนใจ เพื่อบางอย่าง

คืนหนึ่ง เธอได้ฝันเห็นไพ่ Knight of Wands มันช่างดูชัดเจนมาก มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน หรือแม้แต่ใครหลายๆ คน เธอตื่นมาพร้อมกับคำถามในใจ .. สิ่งนี้ต้องการบอกอะไรเธอ ..

สาเหตุอาจมาจากความเครียด แต่ละคนมีหนทางแก้ปัญหาเรื่องความเครียดต่างๆ กันไป บ้างก็หันหาศาสนา บ้างก็เข้ารับการบำบัด บ้างก็หนีหายจากสถานการณ์ตรงไหน แต่เธอเลือกที่จะเพิ่มพลังให้กับตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์

ไพ่อัศวิน  บ่งบอกถึงช่วงเวลาที่ต้องลงมือกระทำบางสิ่งบางอย่าง และมันคืออะไรล่ะ ? .. ในเมื่อไพ่ทาโรต์ได้ช่วยเหลือเธอในยามท้อแท้ สูญเสียความหวัง เธอจึงอยากที่จะสร้างไพ่ทาโรต์ ไพ่ที่จะช่วยเยียวยา เพิ่มพลังใจ ให้กับผู้ที่นำไปใช้ เหมือนกับชีวิตของเธอ ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา

แต่เธอไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไพ่ขนาดนั้น เธอจะสร้างมันได้อย่างไร .. เธอเริ่มค้นหาจากสิ่งที่เธอมี ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ศิลปะ คำคมที่ให้ข้อคิดต่างๆ จนได้เป็นไพ่ที่ประกอบไปด้วย ภาพศิลปะอันสวยงาม กับคำคม กลายเป็นความหมายเฉพาะตนของผู้ที่นำไปใช้

และนี่ก็เป็นที่มาของ ไพ่ทาโรต์ชุด Art of Life



สามารถเอาไพ่ใส่ได้เหมือนรูป
ไพ่ชุดนี้ผลิตในปี 2012 โดย US Games ในรูปแบบกล่องอย่างสวยงาม ตัวอย่างออกแบบให้ฝาสามารถเปิดตั้งได้ และมีช่องไว้ให้ใส่ไพ่ ในกรณีที่เราชอบไพ่ใบใดใบหนึ่ง หรือเลือกเปิดไพ่วันละใบ พร้อมนำไพ่ใบนั้นมาใส่ เหมือนรูปตั้งโต๊ะ

ไพ่ชุดนี้มี 78 แบ่งเป็นไพ่หลัก 22 ใบ ไพ่รอง 56 ใบ
ขนาดไพ่จะใหญ่กว่าไพ่ปกติพอสมควร ในไพ่แต่ละใบจะมีภาพงานศิลปะของศิลปินต่างๆ บ้างภาพหลายคนอาจจะเคยเห็นมาก่อน ใต้ภาพจะระบุชื่อภาพศิลปะนั้น พร้อมกับชื่อศิลปินที่วาดภาพ

ต่อจากนั้นจะเป็น คำคม ของบุคคลสำคัญตั้งแต่อดีต หลังไพ่เป็นภาพต้นไม้ น่าจะของศิลปินที่ชื่อ Gustav Klimt ซึ่งมีภาพของศิลปินคนเดียวกันบนไพ่ Death

แม้ขนาดไพ่จะใหญ่ กระดาษที่ใช้ทำสามารถคลี่ได้ลื่นดี


การอ่านไพ่คุณ Charlene Livingstone ตั้งใจให้ผู้ที่นำไปใช้กำหนดความหมายเฉพาะตัวขึ้นมาเอง โดยอาศัยภาพศิลป และคำคม อย่างที่เธอได้เคยเรียนรู้มา



ภาพจากบ้านเราเอง
แต่ที่เซอร์ไพรส์ก็คือ 1 ใน 78 ใบนี้ มีภาพศิลปะของชาวไทยอยู่ด้วย และเป็นไพ่ที่ผมก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน ลองดูกันเองแล้วกันครับ .. ตอนนั้นเธอคิดอะไรอยู่กันแน่

.. เธอคิดอะไรอยู่ .. (เพลงของพี่ป้าง)


ภาพสุดท้าย ผมได้ลองเปิดทำนายเรื่องงานๆ นึง แต่จำไม่ได้แล้ว พอเห็นรูป Pual Writing ก็น่าจะเกี่ยวกับงานเขียน ภาพใบที่ 2 และ 3 ล้วนหันมาทางใบแรก .. เป็นหนึ่งรูปแบบการอ่านไพ่แบบ 3 ใบ ที่ผมยังติดค้างอยู่ (-_-"


สำหรับความเห็นส่วนตัว แค่ภาพศิลปในไพ่แต่ละใบ ก็สมควรมีไว้ในครอบครองแล้ว หนึ่งวันหยิบหนึ่งใบ ตั้งโต๊ะ ชื่นชมศิลปขณะที่นั่งทำงานไปด้วย .. ทั้งยังสามารถนำมาใช้งานได้อย่างดีอีกต่างหาก

ไพ่ชุดนี้น่าจะยังพอหาซื้อได้ที่ร้านเอเซียบุ๊ค หรือร้านคิโนะคุนิยะ หรือจะซื้อที่เวป Amazon ก็ไม่ว่ากันครับ

เปิดไพ่ทาย 3 ใบ

วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เริ่มต้นศึกษาไพ่ทาโรต์ ไพ่ชุดไหนที่คุณควรจะซื้อ ? (ตอนจบ)

ก่อนที่จะไปต่อข้อที่ 2 ผมขออธิบายเล็กน้อยเกี่ยวกับไพ่ทาโรต์ สำหรับบางคนที่อาจจะยังไม่ทราบ เพราะเริ่มต้นมาจริงๆ

ถ้าพูดถึงไพ่ทาโรต์ เราจะหมายถึงไพ่ที่มี 78 ใบในหนึ่งสำรับ (แต่หลังๆ บางชุดจะมีไพ่พิเศษเพิ่มเติมมาอีก 1-4 ใบ แล้วแต่ผู้สร้างไพ่ชุดนั้นๆ) ทั้ง 78 ใบนี้แบ่งออกเป็นชุดหลัก (Major) และชุดรอง (Minor)

โดยไพ่ชุดหลักจะมี 22 ใบ ซึ่งนักอ่านไพ่จะให้ความสำคัญหรือน้ำหนักมากกับไพ่ชุดนี้ เพราะเป็นแรงผลักหรือเหตุการณ์นอกเหนือการควบคุมของผู้ที่มาดู

ไพ่ชุดหลัก (Major) 22 ใบ

สำหรับไพ่ชุดรองจะมี 56 ใบ แบ่งย่อยลงไปอีก 4 กลุ่มตามธาตุ ดังนี้
1. ไพ่ถ้วย (Cup) ธาตุน้ำ
2. ไพ่ไม้ (Wand) ธาตุไฟ
3. ไพ่ดาบ (Sword) ธาตุลม
4. ไพ่เหรียญ (Pentacle) ธาตุดิน

ในไพ่ชุดรอง 1 กลุ่ม มีไพ่ทั้งหมด 14 ใบ ประกอบไปด้วยไพ่หมายเลข 1 - 10 และไพ่บุคคลอีก 4 ประเภทคือ เด็ก (Page), อัศวิน (Knight), ราชินี (Queen) และ ราชา (King)

ไพ่ชุดรอง (Minor) 56 ใบ


ไพ่ชุด Rider Waite ถึงแม้ว่าจะเป็นไพ่มาตรฐาน คนใช้กันเยอะ แต่ผมอยากให้คนที่สนใจเรียนรู้ไพ่ทาโรต์มีเก็บไว้อย่างน้อย 1 ชุด เพราะอะไรน่ะหรือครับ เพราะไพ่ชุดนี้เป็นชุดแรกที่มีการวาดภาพคน วัตถุ ครบทั้ง 78 ใบ ออกมาขายให้บุคคลทั่วไป .. แต่ไม่ใช่ชุดแรกที่มีการวาดภาพคน วัตถุ ครบ 78 ใบนะครับ ไว้มีโอกาสจะนำมาบอกกล่าวภายหลัง .. ที่บอกว่ามีการวาคภาพคน วัตถุ ครบนั้น เนื่องจากว่ามีไพ่ทาโรต์อีกแบบ ที่ไพ่ชุดรอง หรือ Pip cards มีเพียงสัญลักษณ์ไม้ ถ้วย ดาบ และเหรียญ บนหน้าไพ่ โดยมีจำนวนตามหมายเลขของไพ่ใบนั้น เช่น ไพ่ 5 ดาบ ก็มีจะรูปดาบอยู่ 5 อันบนหน้าไพ่ จึงกล่าวได้ว่าเป็นไพ่คลาสสิกชุดหนึ่ง ที่ยังมีขายอยู่ ส่วนจะชอบชุดไหนก็ลองเลือกกันดูครับ ตามรายชื่อที่ได้บอกไปแล้ว


มาต่อ ข้อที่ 2 ในการเลือกไพ่สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาไพ่ทาโรต์ .. ที่จริงข้อนี้ไม่ค่อยสำคัญ หรือไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ครับ เพราะเมื่อคุณมีไพ่ 1 ชุดจากข้อแรกแล้ว ในข้อที่ 2 นี้จึงเป็นการเติมเต็มความรู้สึกของคุณที่อดกลั้น ทนใช้ไพ่มาตรฐาน มาจนสามารถอ่านคล่อง ทายเป็น แล้ว .. ถึงเวลาแล้วที่จะมีไพ่ที่บ่งบอกบุคคลิกของคุณสักที

ครับข้อนี้ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย เมื่อคุณมีพื้นฐานการใช้งานไพ่ทาโรต์แล้ว ถึงเวลาที่คุณจะต้องตลุยไปในกองไพ่ทาโรต์อันใหญ่โตมโหฬาร นับร้อย นับพันชุด เพื่อตามหาชุดที่ใช่สำหรับคุณ ภาพวาดของศิลปินคนไหนที่โดนใจคุณ ซึ่งจะทำให้การอ่านไพ่ของคุณเป็นเรื่องที่สนุกมากขึ้น

ไพ่ทาโรต์เกือบทั้งหมด (แต่ไม่หมด) จะทำเลียนแบบไพ่ชุด Rider Waite หรือที่เรียกว่า Rider Waite Clone การให้ความหมายของไพ่แต่ละใบจะอ้างอิงความหมายเดิม จึงเป็นเหตุว่า ทำไมบ้างคนไม่ได้ใช้ชุด Rider Waite แต่อ่านไพ่โดยใช้ความหมายของ Rider Waite .. ไพ่ทาโรต์มีการสร้างใหม่มาเรื่อยๆ ผู้ที่สร้างไพ่ (คิดรูปแบบของไพ่) กับศิลปิน (ซึ่งอาจจะเป็นคนเดียวกับผู้สร้างหรือคนละคนก็ได้) จะออกแบบภาพที่ต่างไปจากภาพของ Rider Waite หรือเลือกแสดงภาพที่สื่อถึงความหมายที่เขาต้องการเน้น แต่ก็ยังคงความหมายเดิมไว้ อาจจะมีไพ่บางใบของบางชุดที่ความหมายต่างออกไปเลยก็มี .. ถ้าคุณมีไพ่หลายๆชุดแล้ว จะเข้าใจเองครับ

อยู่ดีๆ จะให้ไปเลือกที่ร้านเลยก็อาจจะยากสักหน่อย เพราะในร้านเขาห้ามแกะ เราจะรู้ได้อย่างไรว่ากล่องที่เลือก พอแกะออกมาภาพจะใช่ในแบบที่เราชอบหรือไม่ .. กรณีนี้ผมแนะนำให้ลองไปเข้าไปดูตัวอย่างไพ่ได้ที่เวปไซต์

1. Aeclectic Tarot   สร้างโดยคุณ Kate Hill นักอ่านไพ่และสะสมไพ่ มีรายชื่อไพ่มากกว่า 1,000 ชุด แต่ละชุดก็จะมีตัวอย่างไพ่บางใบให้ดู พอที่จะรู้ลักษณะของไพ่ชุดนั้นๆได้ บางชุดก็จะมีคนมารีวิวให้อ่านกัน จะมีอัพเดตรายชื่อไพ่ที่ออกมาใหม่ๆ ตลอดเวลา

2. rozamira tarot's Gallery  สำหรับเวปนี้คุณสามารถดูไพ่ได้ทั้งชุดเลยทีเดียว ถ้าดูจากเวป Aeclectic Tarot ยังไม่จุใจ ต้องการเห็นไพ่ทุกใบก็ลองเข้าไปหาดูในนี้อีกทีครับ

มีอยู่ช่วงหนึ่งผมนั่งไล่ดูตั้งแต่ตัวอักษร A จนถึง Z เลยทีเดียว

แน่นอนว่ามันต้องใช้เวลาพอสมควร ในการนั่งไล่ดูไพ่แต่ละชุด ซึ่งมันอาจจะทำให้คุณตื่นเต้น หรือเบื่อไปเลย เพราะฉะนั้นเอาไว้ว่างๆ คุณค่อยมานั่งดูดีกว่า .. วิธีที่ง่ายกว่านั้นคือ หันซ้ายหันขวาดูครับ ว่ามีคนที่คุณรู้จักและใช้ไพ่ทาโรต์อยู่บ้างไหม ถ้าเจอลองถามเขาดูครับว่า เขาชอบไพ่ชุดไหนบ้าง มีชุดไหนแนะนำบ้างไหม เผื่อรสนิยมจะตรงกัน

หรือถ้าหันไปแล้วไม่เจอใครเลย แบบว่าแถวนั้นไม่มีใครสนใจไพ่ทาโรต์เหมือนคุณ ผมได้เลือกรายชื่อไพ่ที่ผมชอบ (ส่วนตัว) มาให้คุณลองพิจารณาดู ซึ่งรายชื่อไพ่ที่นำมาแสดงนั้นยังสามารถหาซื้อได้ที่ร้านเอเซียบุ๊ค และร้านคิโนะคุนิยะ บ้านเรา .. มาดูกันเลยครับ


รายชื่อไพ่
1. Dreaming Way Tarot
http://www.kinokuniya.com/th/index.php/fbs003?common_param=9781572817128
Sample images

2. Shadowscapes Tarot Deck
http://www.kinokuniya.com/th/index.php/fbs003?common_param=9780738727325
http://www.kinokuniya.com/th/index.php/fbs003?common_param=9780738715797
Sample images

3. Legacy of the Divine Tarot
http://www.kinokuniya.com/th/index.php/fbs003?common_param=9780738715650
Sample images

4. Deviant Moon Tarot Deck
http://www.kinokuniya.com/th/index.php/fbs003?common_param=9781572816114
Sample images

5. Deviant Moon Tarot Borderless Edition
http://www.kinokuniya.com/th/index.php/fbs003?common_param=9781572817715

6. The Mary-el Tarot (with cards) (ภาพจะต่างกับ ไพ่ทาโรต์มาตรฐานมาก ต้องดูแบบผสม oracle คือดูจากภาพประกอบ)
http://www.kinokuniya.com/th/index.php/fbs003?common_param=9780764340611
Sample images

7. The Steampunk Tarot
http://www.kinokuniya.com/th/index.php/fbs003?common_param=9780738726380
Sample images

8. Witches Tarot
http://www.kinokuniya.com/th/index.php/fbs003?common_param=9780738728001
Sample images

9. Gaian Tarot
http://www.kinokuniya.com/th/index.php/fbs003?common_param=9780738718910
Sample images

10. The Law of Attraction Tarot
http://www.kinokuniya.com/th/index.php/fbs003?common_param=9781401937263
Sample images


ผมทำลิ้งไว้ที่เวป Amazon กับที่ร้านคิโนะคุนิยะไว้ให้นะครับ สำหรับของร้านเอเซียบุ๊ค อาจจะต้องลองค้นเองในเวปดูนะครับ .. ลองเลือกดูนะครับ หรือจะซื้อทั้งหมดนี่ก็ไม่ว่ากันครับ ^^


ส่วนใครมีวิธีเลือกไพ่อย่างไร หรือมีไพ่ชุดไหนสวยๆ อย่าลืมมาแนะนำเพื่อนๆ กันมั้งนะครับ .. ขอจบการเลือกไพ่สำหรับผู้ที่สนใจเริ่มศึกษาไพ่ทาโรต์แต่เพียงเท่านี้นะครับ .. ขอให้มีความสุขกับไพ่ชุดใหม่ๆครับ